ReadyPlanet.com
ฝึกเด็กกลุ่มเสี่ยงเทคนิคปทุม ค่ายทหารนาวิก article

 

       งานพิทักษ์เด็ก เยาวชนและสตรี ตำรวจภูธรภาค 1 ได้เข้าร่วมศึกษาปัญหาเด็กนักเรียนทะเลาะวิวาทร่วมกับสถาบันการศึกษาในเขตพื้นที่รับผิดชอบมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เปิดภาคเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานศึกษาระดับอาชีวะศึกษาของรัฐที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดปทุมธานี โดยการศึกษาปัญหาพบว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษามีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทำความผิด จึงได้ร่วมกันจัดทำโครงการนำร่องชื่อ "โครงการป้องกันปัญหาพฤติกรรมของนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิด" ขึ้นเพื่อป้องกันและแก้ปัญหานักเรียน นักศึกษาที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการกระทำผิด

       จากเหตุการณ์ที่มีกลุ่มนักเรียนขับรถจักรยานยนต์ไล่ยิงนักเรียนบนรถเมล์ประจำทางสาย 538 เลขทะเบียน 08101 กทม สีเหลือง หมายเลขข้างรถ 538-25 วิ่งระหว่างราชมงคลธัญบุรีถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ทำให้รถเมล์เสียหายและหลบหนีเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลธัญบุรี โดยผู้โดยสารหลบหนีเข้าไปอยู่ในโรงพยาบาลก่อนกลุ่มนักเรียนจะสลายตัวหนีไป โดยมี นายศิริเดช ขำไพโรจน์ อายุ 17 ปี นักเรียนเทคนิคดอนเมือง ชั้น ปวช.2 แผนกช่างยนต์ ได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะอ้างว่ากลุ่มนักเรียนที่ลงมือก่อเหตุเป็นกลุ่มนักเรียน เทคนิคปทุมธานี

         นายรพีพงศ์ สุคันธารุณ รองผู้อำนวยการ วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี กล่าวว่า ทางโรงเรียนไม่เคยนิ่งนอนใจกับปัญหาเด็กนักเรียนตีกัน โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 28-29 สิงหาคมที่ผ่านมา ได้ทำโครงการร่วมกับ ตำรวจภูธรภาค1 จัดโครงการนำ เด็กกลุ่มเสี่ยงที่นำไปอบรมมีจำนวน 150 คน โดยคัดเลือกจากอาจารย์ฝ่ายปกครองและอาจารย์ประจำชั้น โดยมีการแจ้งขออนุญาติผู้ปกครองรวมทั้งค่าใช้จ่ายในจัดอบรมผู้ปกครองเป็นผู้จ่ายให้ทั้งหมด ทั้งนี้ เด็กที่มาศึกษาอยู่ในแผนกวิชาช่างอุตสาหกรรม ช่างยนต์ และเลขานุการ ที่ส่วนใหญ่มีประวัติทะเลาะวิวาท ขาดเรียน กลับบ้านไม่ตรงเวลา ไม่เข้าห้องเรียน ซึ่งอีกส่วนหนึ่งเป็นเด็กที่มีความประพฤติเรียบร้อยและเคยผ่านการอบรมมาแล้ว ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้จับผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี แต่กลับระบุว่าเป็นเด็กนักเรียนโรงเรียนเทคนิคปทุมธานี ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้องเพราะจะทำให้เด็กส่วนมากที่ไม่รู้เรื่องต้องมาเสียชื่อด้วย และการนำชื่อของนักเรียนที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทมาออกตามสื่อตนก็ไม่เห็นด้วย เพราะจะเกิดพฤติกรรมเลียนแบบกัน และทางตำรวจก็ได้พยายามป้องกันกันอย่างเต็มที่แล้ว

       พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รองผบช.ภ.1 ผู้อำนวยการ ศูนย์พิทักษ์เด็ก เยาวชนและสตรี (พดส.) ตำรวจภูธรภาค 1 กล่าวว่า การจัดโครงการป้องกันปัญหาพฤติกรรมของนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการกระทำความผิด เมื่อวันที่ 28-29สิงหาคม โดยนำนักเรียนวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี จำนวน 150 คน ทั้งหญิงและชาย ไปยังกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 1 กองพลนาวิกโยธิน (พัน.ร.3 กรม ร.1.พล.นย.) ค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี โดยในช่วงเช้า เมื่อนักเรียนเทคนิคปทุมฯกลุ่มเสี่ยงทั้ง 150 คน เดินทางถึงค่ายพระมหาเจษฎาราชเจ้า ทหารได้ให้ทำกิจกรรมละลายพฤติกรรมด้วยการจัดแถวแล้ววิ่งข้ามสิ่งกีดขวาง คลาน และคลุกโคลน หลังจากนั้นเป็นการฝึกความซื่อสัตย์ด้วยการให้เด็กนักเรียนที่พกอาวุธ และนำบุหรี่มาสูบ ออกมาทิ้ง โดยพบว่าบางคนได้นำมีดคัตเตอร์ ดาบปลายปืน มากองไว้จำนวนหนึ่ง ก่อนจะนำเข้าขั้นตอนละลายพฤติกรรมเพื่อให้เด็กมีความอดทนอดกลั้น คิดหน้าคิดหลังก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป

                      พ.ต.ท.อุเทน นุ้ยพิน รองผู้กำกับการสืบสวน 3 กองบังคับการสืบสวนสอบสวน ตำรวจภูธรภาค 1 ผู้ช่วยเลขานุการ พดส. ให้ความเห็นว่าปัญหาพฤติกรรมของนักเรียนนักศึกษาที่มีความประพฤติไม่เหมาะสม เช่น ไม่เคารพนับถือครูอาจารย์ ไม่มีสัมมาคารวะในชั่วโมงเรียน ลบหลู่ดูหมิ่นครูอาจารย์ หนีเรียน จับกลุ่มประพฤติตนเป็นที่เดือดร้อนรำคาญให้แก่ผู้พบเห็น เข้ากลุ่มทะเลาะวิวาท และใช้อาวุธทำร้ายนักเรียนทั้งในและต่างสถาบัน ทวีปัญหารุนแรงขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง

                      พ.ต.ท. อุเทน กล่าวว่า พดส. ตำรวจภูธรภาค 1 ได้ร่วมเข้าศึกษาปัญหาดังกล่าวร่วมกับสถาบันการศึกษาในเขตรับผิดชอบมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่เปิดภาคเรียน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี ซึ่งเป็นสถานศึกษาระดับอาชีวะศึกษาของรัฐที่ใหญ่ที่สุดใน จ.ปทุมธานี จากการศึกษาพบว่ามีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษามีพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการกระทำความผิด จึงได้ร่วมกันจัดทำโครงการนำร่องชื่อ โครงการป้องกันปัญหาพฤติกรรมของนักเรียนที่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่อการกระทำผิด เพื่อป้องกันและแก้ปัญหานักเรียนนักศึกษาที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการกระทำความผิด       ทั้งนี้ ในช่วงบ่ายครูฝึกได้ทำการปรับพื้นฐานด้านระเบียบวินัย ในการสั่งให้ลุก นั่ง หมอบ คลาน กลิ้ง การจัดแถว ก่อนที่แบ่งเด็กทั้งหมดออกเป็น 4 กอง

                      พันจ่าเอกณรงค์ บุญปอง ครูฝึกดูแลการอบรมระเบียบวินัย กล่าวว่า เด็กกลุ่มเสี่ยงเหล่านี้ขาดเรื่องระเบียบวินัย ดังนั้นเมื่อมาถึงจึงต้องทำการฝึกเรื่องระเบียบวินัยเป็นอันดับแรก จะเห็นได้ว่าพอเด็กมาถึงก็จะมีการแต่งกายผิดระเบียบ อาจจะเป็นส่วนน้อยของโรงเรียน ตรงนี้เราจึงต้องมีการฝึกวินัย เราเรียกว่าค่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต พื้นฐานของระเบียบวินัยก็คือการฝึกระเบียบแถว หลังจากนั้นเราก็แบ่งกลุ่มเด็กออกเป็น 4 กลุ่ม คือ แดง เหลือง เขียว ฟ้า ขั้นตอนการฝึกจะสร้างให้เด็กมีระเบียบวินัย มีความอดทน สติอารมณ์ รู้รักสามัคคี มีน้ำใจ ตรงต่อเวลา และทดสอบกำลังใจโดยการทำสอบกำลังใจ จากนั้น จะให้เด็กเข้าฐานลอดท่อ ข้ามเครื่องกีดขวาง ไต่เชือก ฝึกไต่หน้าผาจำลอง เพราะการไต่ขึ้นที่สูงนี้ต้องมีการแบ่งกำลัง เราจะฝึกให้เด็กรู้ว่าต้องแบ่งกำลังอย่างไร การลงจากที่สูงทำการวางเท้าอย่างไรไม่ให้กระแทก หลังจากนั้นเราก็จะให้ออกกำลังกาย วิ่งชายทะเลและลงไปเล่นน้ำทะเลสักพักเพื่อเป็นการชำระล้างสิ่งที่ติดตัวมา ถือว่าเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่ง

                     พันจ่าเอกณรงค์ กล่าวต่อว่า หลังจากฝึกเรื่องระเบียบวินัยแล้ว ลำดับต่อไปคือการสอนให้รู้จักพระคุณพ่อแม่ เนื่องจากเด็กบางคนมาจากครอบครัวที่มีปัญหา พ่อแม่เลิกกัน จึงหันไปติดเกม ติดยาเสพติดและกินเหล้า ซึ่งการฝึกตรงนี้เรียกว่าค่ายพัฒนาคุณภาพชีวิตคราวนี้เรามีเวลาไม่เต็มที่ แค่สองวันหนึ่งคืน ผมไม่ได้คาดหวังอะไร เพราะเข้าใจว่าเด็กสมัยใหม่ลืมง่าย ถ้าจะให้ดีต้อง 5วัน 4 คืน ซึ่งเราจะมีตารางการฝึกที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ หมุนเวียนการเป็นผู้นำ ฝึกทั้งกลางวันกลางคืน มีการดูแลธงที่จะมีครูฝึกคอยชิงธง ซึ่งจะดุดันมากกว่านี้ แม้จะแค่ 2 วัน 1 คืนได้แค่นี้ก็คงทำให้เด็กจำได้ว่าครั้งหนึ่งในชีวิตได้มาฝึกกับนาวิกโยธินที่โหด

                      ในขณะที่ นายวิรัตน์ คันธารัตน์ ผู้อำนวยการเชี่ยวชาญ วิทยาลัยเทคนิคปทุมธานี กล่าวว่า โครงการฝึกอบรมครั้งนี้เป็นการประสานการทำงานกับตำรวจภูธรภาค1 ที่ให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชนใน จ.ปทุมธานี ทั้ง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยเด็กที่มาเข้าอบรมเป็นหัวหน้าแผนกช่างอุตสาหกรรม พาณิชยศาสตร์ คหกรรมศาสตร์ การกระทบกระทั่ง ทะเลาะวิวาททั้งภายในและภายนอกโรงเรียน โดยเด็กบางคนที่มาอบรมก็ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง แต่ประสงค์จะเข้าร่วม เพราะเคยผ่านการอบรมกลุ่มผู้นำลูกเสือและสนใจในกิจกรรมปรับภาวะผู้นำ ปรับบุคลิคภาพ เพื่อเป็นผู้นำในทางที่ดี

       นายวิรัตน์ กล่าวต่อว่า จุดเริ่มต้นคือเรื่องวินัยก่อน คนเราทำงานอะไรต้องมีวินัยในตนเอง รับผิดชอบ รู้รักสามัคคีเพื่อพัฒนาต่อถ้าได้ปูพื้นฐาน เพราะฉะนั้นต้องเสริมสร้างให้เพิ่มขึ้นในตัวเขาก่อน โดยสถานศึกษาครูเองก็ต้องปรับทัศนคติที่มีต่อเด็กด้วย ปัจจุบันสถานการณ์เด็กตีกันในวิทยาลัยเทคนิคปทุมธานีอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่ทั้งนี้ถ้าช่วยกันทุกฝ่าย ทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ครูถ้าทุกส่วนช่วยกันการทะเลาะวิวาทจะลดลง เราต้องให้ความสำคัญ ปฏิเสธไม่ได้ว่าธรรมชาติของเด็กมันต้องมีเกิดขึ้น แต่จะทำอย่างไรไม่ให้เด็กใช้อาวุธ หรือใช้ความรุนแรง การเข้าอบรมครั้งนี้ก็น่าจะทำให้เบาลง และมีใจเอื้อเฟื้อากขึ้น ถ้ามีกิจกรรมต่อเนื่อง

 

ข่าวโดย  เอกฆัมพร รุจิพุฒ/ปทุมธานี
แหล่งข่าว http://76.nationchannel.com



ข่าวสารเมืองปทุม

โครงการฉีดวัดซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ๔ สายพันธุ์
ผู้ว่าฯ ปทุมธานี นำข้าราชการและประชาชนทำบุญ ตักบาตรข้าวสาร-อาหารแห้ง ในวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2560 เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นศักราชใหม่
เกิดเหตุทำร้ายร่างกายบริเวณริมเขื่อนสะพานแดงคลองหนึ่งชายถูกอาวุธแม่ไม้มวยไทยได้รับบาดเจ็บ
เปิดโครงการรวมพลคนกู้ภัยสานพลังประชารัฐอาสากู้ภัยร่วมสร้างสังคมไทยปลอดภัยยั่งยืนประจำปี 2559 ที่ ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์รังสิตจังหวัดปทุมธานี
จังหวัดปทุมธานี สานพลังประชารัฐ ยกระดับคุณภาพวิชาชีพ เดินหน้า excellent model school