ในปัจจุบันความขัดแย้งในเรื่องต่างๆนั้นมีหลายรูปแบบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจะเป็นด้วยเจตนา ความตั้งใจ หรือความประมาทพลั้งเผลอ จะมีเรื่องๆราวต่างๆเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาในทุกสังคมปัจจุบัน ดังนั้นปัญหาแตกต่างทางความคิด ขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ ย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ณ ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเรื่องต่างๆที่แต่ละฝ่ายซึ่งก็มีเหตุผลของตัวเองและไม่สามารถหาความลงตัวได้ จึงต้องมีผู้ชี้ขาดในเหตุการณ์ต่างๆเพื่อหาข้อสรุป และความถูกต้องที่แท้จริงและเป็นธรรม คือทุกเรื่องราวต้องเดินเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเป็นผู้ชี้ขาด หาข้อยุติในทุกๆกรณี

       จากปัญหาใหญ่น้อยทั้งหมดที่กล่าว จึงเป็นจุดกำเนิดโครงการ ร่วมใจไกล่เกลี่ย โดยศาลจังหวัดธัญบุรี สมาชิกหอการค้าจังหวัดปทุมธานี และประชาชนทั่วไป โดยโครงการดังกล่าวได้จัดปรุชุมสัมมนาเชิงวิชาการ ที่ห้องประชุม บริษัทรังสิตพลาซ่า จำกัด(ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต) โดยนายคมคิด วรยิ่งยง ในนามของคณะผู้ประณีประนอมประจำศาลจังหวัดปทุมธัญบุรีได้เผยถึงความเป็นมาและเจตนารมณ์ของโครงการว่า วัตถุประสงคืหลักของโครงการนี้ ได้เกิดจากความคิดของหลายๆฝ่ายที่ได้มีการพูดคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้นและเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมนั้นมีอยู่อย่างมากมาย ซึ่งถ้าดุในรายละเอียดของความแตกต่างแล้วจะเห้นได้ว่าเรื่องราวที่เข้ามาสู่กระบวนการของศาลนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงๆนั้นจะมีความคล้ายคลึงวนเวียนมาตั้งแต่ครั้งอดีต ซึ่งบางที่ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่คู่กรณีมักจะหาทางออกไม่เจอ ซึ่งเป็นความแตกต่างทางความคิดของแต่ละบุคคล โดยทางศาลจะมองเห็นปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งก่อนที่จะมีการพิจจารณาเป็นคำตัดสินนั้น ในขั้นตอนแรกที่ทางศาลได้ยึดถือเป็นแนวปฏิบัติมาตลอดก็คือ การไกล่เกลี่ย โดยจะให้คู่กรณีนั้นได้มีโอกาสพูดคุยทำความเข้าใจในเรื่องของปัญหาอย่างแท้จริงก่อน โดยศาลจะให้เวลาไกล่เกลี่ยประณีประณอมซึ่งกันและกัน ซึ่งในครั้งแรกยังไม่สามารถที่จะตกลงกันได้ ศาลก็ยังให้โอกาสเป็นครั้งที่สองที่สาม ก็มีจำนวนไม่น้อยที่เขาสามารถที่จะตกลงกันได้

       ดังนั้นโครงการนื้อว่าเป็นเรื่องที่ดีมีประโยชน์กับสังคมส่วนรวมเป็นอย่างมาก เพราะจะเกิดให้อำนวยความยุติธรรมแก่ประชาชนในสังคม ก่อให้เกิดความสมานฉันท์ รู้รักสามัคคีและเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม และเพื่อรณรงค์ให้ประชาชนผู้มีอรรถคดีในศาลได้เลือกใช้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทเพื่อยุติคดีในศาลด้วยความสะดวก รวดเร็ว ประหยัดและเป็นธรรม และที่สำคัญเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทให้เป็นที่แพร่หลายในหมู่ประชาชน ซึ่งทางศาลจังหวัดธัญบุรีได้พิจารณาเห็นว่า เพื่อเป็นการสนองนโยบายของสำนักงานศาลยุติธรรมที่สนับสนุนห็ศาลยุติธรรมทั่วประเทศจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์การไกล่เกลี่ยข้อพิพาท โดยการจัดงานครั้งนี้เป็นการนำร่องให้กับผู้ที่เข้าร่วมงานให้ได้รู้และเข้าใจในวัตถุประสงค์ของโครงการ ซึ่งต่อไปโดครงการนี้จะแพร่ขยายให้ความรู้แล้ความเข้าใจกับประชาชนทุกกลุ่มได้มีความเข้าใจนำไปเป็นแนวทางคู่กับชีวิตประจำวันและยังเป็นการเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้กับตัวเองและในหมู่คณะ

           ทางด้านท่านรุ่งเรือง ลำพองชาติ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดธัญบุรีได้กล่าวกับผู้ร่วมงานในครั้งนี้ว่า เรื่องราวต่างๆที่เข้ามาสู่กระบวนการของศาลมีหลายครั้งจะเห็นได้ว่าในบางเรื่องนั้นบางที่ก็ไม่ได้ใหญ่โตแต่เป็นเรื่องของศักดิ์ศรี คงจะเคยได้เห็นกันมาแล้วว่าในบางคดีที่เป็นการหมิ่ประมาทจะมีการเรียกร้องค่าเสียหายกันที่ละเป็นจำนวนมากๆทั้งๆที่เรื่องราวก็ไม่ได้ใหญ่โตมากมายแต่คนเรานั้นย่อมยึดถือศักดิ์ศรีของตัวเองในวงสังคม ถ้าเมื่อใดมีการหมิ่นประมาทก็จะมีการฟ้องร้องเพื่อให้ศาลหาข้อยุติ ขบวนการไกล่เกลี่ยจึงมีความจำเป็นที่ต้องนำออกมาใช้อยู่ตลอดเวลาซึ่งศาลก็จะให้ความเข้าใจกับทั้งสองฝ่ายได้มีการตกลงกันก่อนจนได้ข้อยุติ ในบางครั้งก็จบด้วยการลงโฆษณาข้อความตามหน้านังสือพิมพ์ในฉบับต่างๆตามข้อตกลงซึ่งกันและกันแล้วทุกอย่างก็จบ ในบางคดีเรียกร้องกันถึง 40-50 ล้าน แต่เมื่อมีการประณีประนอมกันได้ทั้งสองฝ่ายทุกย่างก็จบโดยที่ไม่ต้องมีการเสียเงินเสียทองตามที่ยื่นฟ้องมายังศาล