ทม สนั่นรักษ์ ดัดแปลงวัสดุเหลือใช้ เป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมทั้งเตรียมจดสิทธิบัตร เพื่อประโยชน์ของส่วนรวม

         จากสภาพสังคมที่เร่งรีบและแข่งขันกันอย่างสูงในปัจจุบัน ก่อให้สถานการณ์สาธารณภัยหรือภัยพิบัติที่เกิดขึ้นมีแนวโน้มการเกิดความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น สร้างความสูญเสียแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมากในแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นภัยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติหรือภัยพิบัติที่เกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ ดังนั้นภัยพิบัติ หรืออุบัติภัยจึงเป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคนในสังคมที่ทุกภาคส่วนจะต้องเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ทั้งนี้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อันถือเป็นองค์กรที่อยู่ใกล้ชิดกับประชาชน จึงควรเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไข และช่วยเหลือประชาชน ดังนั้น ทาง เทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ จึงได้ดำเนินการฝึกอบรมสมาชิก อปพร.ร่วมทั้งจัดตั้งหน่วยกู้ภัยขึ้นมา โดยมีการจัดฝึกอบรม ให้มีความรู้ ทักษะและความสามารถในการป้องกันและบรรเทาภัยที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามหลักวิชาการ อันจะทำให้สามารถลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นให้มีน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้

       นายสมชาย รังสิวัฒนศักดิ์ นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่า ตนเองในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน ได้เล่งเห็นถึงปัญหาที่เกิดขึ้น จึงได้จัดฝึกอบรม อปพร. และอาสาสมัครกู้ภัยในสังกัดของเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดูแลช่วยเหลือผู้ประสพอุบัติภัยให้มีความพร้อมความสามารถในการปฎิบัติงานได้อย่างทันท่วงที่ ทั้งนี้ปัจจุบันอาสาสมัครป้องกันกันภัยนั้นได้กระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ มีบทบาทหน้าที่สำคัญอย่างมากในการเป็นหูเป็นตาและแจ้งข้อมูลข่าวสารที่เกิดขึ้นในพื้นที่ให้กับเจ้าหน้าที่ทางราชการทราบโดยเฉพาะภัยพิบัติต่างๆเพื่อทางเจ้าหน้าที่จะเข้าไปช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

             นางฐิตินันท์ เจริญอาจ ปลัดเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ ในฐานะวิทยากร อปพร. กล่าวว่า นอกจากการจัดการฝึกอบรมให้ความรู้แล้ว ทางเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ ยังได้มีการสาธิต การใช้อุปกรณ์กู้ภัย ที่ทำมาจากวัสดุเหลือใช้ที่มีอยู่โดยทั่วไป มาดัดแปลงทำเป็นอุปกรณ์ใช้ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ทั้งนี้จากเดิมที่เราได้รับการสนับสนุนอุปกรณ์การกู้ชีพ ทั้งแปล เฝือกดามขา แขน เฝือกคอ มาอย่างละหนึ่ง ซึ่งอุปกรณ์เหล่าส่วนใหญ่แล้วมีราคาแพง และได้รับการสนับสนุนมาเพียง อย่างละหนึ่งชุด ซึ่งเราคิดว่าคงไม่เพียงพอ เพราะที่ผ่านมาการเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัยในแต่ละครั้ง มักจะมีคนเจ็บมากกว่า 1 คน ซึ่งคงไม่เพียงพอ

      ดังนั้น เราจึงมาคิดกันว่า เราน่าจะจัดสร้างอุปกรณ์เหล่านี้ขึ้นมาได้ เพราะถ้าจะให้ไปซื้อหามาคงใช้เงินจำนวนมากเพราะอุปกรณ์กู้ชีพแต่ละชิ้นก็มีราคาแพง ซึ่งทางทีมงานของเรา ก็คิดที่จะดัดแปลงวัสดุเหลือใช้ที่เรามีอยู่ มาทำเป็นอุปกรณ์กู้ชีพกู้ภัย ซึ่ง ผลที่ได้นับว่าเป็นที่พอใจของทุกฝ่ายเป็นอย่างยิ่ง อย่างเช่น เฝือกที่จะใช้ดามแขนดามขา ซึ่งปกตินั้นก็มีราคาแพงโดยชุดหนึ่งมีมูลค่าประมาณ 800-1000 กว่าบาท เราก็ดัดแปลงมาจากท่อพีวีซี ซึ่งผลที่ได้คือความคงทน ดีกว่าของที่มีราคาแพง เพราะเราลงทุนแค่ 50 บาท หรือ 100 บาทต่อชุด และที่สำคัญเมื่อเราใช่เฝือกดามแขนขา ที่เราทำขึ้นเองนั้นเมื่อนำคนเจ็บส่งไปถึงโรงพยาบาลแล้วยังไม่ต้องถอดเฝือกออกและสามารถนำไปเข้าห้องเอกซเรย์ได้โดยทันที เพราะอุปกรณ์ที่เราผลิตขึ้นมานั้นไม่มีโลหะอยู่เหมือนของที่มีขายโดยทั่วไป ซึ่งจะช่วยให้ผู้ได้รับบาดเจ็บไม่ต้องบาดเจ็บซ้ำซ้อนในขณะถอดเฝือกเพื่อเอกซเรย์อีกด้วย ส่วนเฝือกคอ เราก็ดัดแปลงมาจากกระป๋องสี ซึ่งเป็นของเหลือใช้ ซึ่งก็สามารถใช้ทดแทนได้เป็นอย่างดี จนมีโรงพยาบาลต่างๆสั่งทำเพื่อนำไปใช้งาน โดยเฉพาะ โรงพยาบาลเมืองปทุมธานี สั่งมาจำนวนมากเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับหน่วยงานหรือมูลนิธิต่างๆนำไปใช้งาน ซึ่งจะสามารถประหยัดงบประมาณในการจัดซื้อได้เป็นจำนวนมาก

              นางฐิตินันท์ เจริญอาจ ปลัดเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ กล่าวต่อว่า จากผลที่ได้รับจากสิ่งของเหลือใช้เหล่านี้ เราจึงได้นำผลงานของเราไปขอจดสิทธิบัตร กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา โดยขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการดำเนินการ ทั้งนี้การจดสิทธิบัตร นั้น ก็จดในนามของเทศบาลเมืองสนั่นรักษ์ เราไม่ได้จดเพื่อการค้าหรือหากำไร เราจดไว้เพื่อจะได้ให้สิ่งเหล่านี้เป็นประโยชน์สูงสุดต่อสังคม เพราะทุกหน่วยงานสามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ได้โดยไม่ต้องไปหาซื้อของแพงจากที่ใดอีกต่อไป