จากกรณีที่นางจุฑารัตน์ อิ่มชื่นศรี ปลัดเทศบาลเมืองคลองหลวง จ.ปทุมธานี ในฐานะผอ.การเลือกตั้งประจำเทศบาลเมืองคลองหลวง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.คลองหลวง เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายประพัฒน์ น้อยรอด ว่าที่นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองคลองหลวง ในความผิดไม่ได้จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีจากสถาบันที่ระบุถ้อยคำต่อเจ้าหน้าที่ และมีการใช้วุฒิการศึกษาปลอมในการศึกษาต่อในระดับปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยราชภัฎวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์

พ.ต.อ.เพิ่มเกียรติ สุริยวงศ์ ผกก.สภ.คลองหลวง เปิดเผยว่า ได้ให้พนักงานสอบสวนเจ้าของคดีเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง กรุงเทพฯ เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงถึงวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาตรีของนายประพัฒน์ หากพบว่ามีการปลอมวุฒิการศึกษาจริง ก็จะทำหนังสือเรียกตัวนายประพัฒน์ มาให้ปากคำเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา และหากเจ้าตัวไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนตามกำหนดเวลาก็จะออกหมายจับกุมตัวมาดำเนินคดีทางกฏหมาย

วันเดียวกันกันที่มหาวิทยาราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ รศ.ดร.สมบัติ คชสิทธิ์ อธิการบดีมหาวิทยาลัย ได้เรียกเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องประชุม เพื่อสอบถามความคืบหน้าในการตรวจสอบคุณวุฒิของนายประพัฒน์ โดยได้ขอตรวจสอบไปที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ เนื่องจากนายประพัฒน์ ได้สมัครศึกษาในระดับปริญญาโท โดยใช้วุฒิการศึกษาที่จบจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์มาสมัคร โดยทางมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ได้ทำหนังสือตอบกลับมาแล้วโดยไม่มีชื่อของนายประพัฒน์ศึกษาที่มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์ สาขาการตลาด คณะบริหารธุรกิจ

รศ.ดร.สมบัติ กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือด่วนที่สุด ถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเทศบาลเมืองคลองหลวงเลขที่ ศธ0551.11/287 โดยอ้างถึง1.หนังสือสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ที่ ศธ0551.11/ตว.375/2555 ลงวันที่ 27 กันยายน 2555 และ2.หนังสือมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ในพระบรมราชูปถัมภ์ที่ ศธ0551.11/285 ลงวันที่ 18 ตุลาคม 2555 โดยมีใจความสำคัญว่า

มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้รับการยืนยันจากมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์แล้วว่า หนังสือแสดงคุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีที่นายประพัฒน์ ได้นำไปเพื่อประกอบการสมัครเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาโทเป็นเอกสารปลอมแปลง ดังนั้นมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ จะมีการบวนการนำเสนอต่อสภามหาวิทยาลัย เพื่อพิจารณาคุณวุฒิการศึกษาระดับปริญญาโท หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชารัฐประศาสสนศาสตร์ ของนายประพัฒน์ เป็นโมฆะและถอดถอนปริญญาบัตรต่อไป เนื่องจากไม่มีคุณสมบัติในการเข้าศึกษาตามที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดไว้ ทั้งนี้ทางมหาวิทยาลัยจะนำเรื่องของการปลอมแปลมวุฒิการศึกษาของนายประพัฒน์ ในระดับปริญญาตรีเพื่อศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยในระดับปริญญาโทเข้าในวาระการประชุมในวันที่15 พฤษจิกายน 2555 เพื่อประชุมสภาวิชาการมหาวิทยาลัย และดำเนินกระบวนการตามขั้นตอน

หลังจากนั้นสภามหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์จะเรียกประชุมในวันที่6 ธันวาคม 2555 เพื่อให้ผู้ทรงคุณวุฒิเป็นผู้ตัดสินในการถอดถอนวุฒิการศึกษาในระดับปริญญาโทของนายประพัฒน์ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นถือว่าเป็นเหตุการณ์แรกในรอบ80ปี ที่มีการนำวุฒิการศึกษาปลอมสมัครเพื่อศึกษาต่อที่ มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ส่วนเรื่องการดำเนินคดีก็จะมอบหมายให้ฝ่ายนิติกรของมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ เป็นผู้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีต่อไป