เสี่ยโรงน้ำแข็งตลาดไท ร้องถูกแก๊งอุ้มอ้างสถาบันบีบ จนต้องปิดกิจการ       เสี่ยโรงน้ำแข็งตลาดไท ร้องถูกแก๊งอุ้มทวงหนี้เครือข่าย พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ แอบอ้างสถาบันบีบ จนเลิกกิจการ เสียหายหลายสิบล้าน             วันที่ 3 ธันวาคม 2557 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายไตรสรณ์ ธีระตระกูล อดีตเจ้าของสัมปทานเจ้าของโรงน้ำแข็งตลาดไท เดินทางมาเข้าพบ พล.ต.ต. ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อให้ปากคำในฐานะพยาน หลังถูกแก๊งอุ้มแอบอ้างสถาบันเครือข่าย พล.ต.ท. พงศ์พัฒน์ ฉายาพันธุ์ ผู้ต้องหาที่กำลังถูกดำเนินคดีที่ สน.วัดพระยาไกร และ สน.พระโขนง ในขณะนี้ ทำการบังคับข่มขู่ แอบอ้างสถาบัน ไม่ให้ธุรกิจขายน้ำแข็งในตลาดไท ทั้ง ๆ ที่ตนเองประมูลสัมปทานมาอย่างถูกต้องเป็นรายปี ปีละกว่า 24 ล้านบาท โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2556             โดยนายไตรสรณ์ เปิดเผยว่า ภายหลังจากมีผู้จ่ายเงินประมูลสัมปทานขายน้ำแข็งในตลาดไทอย่างถูกต้องจากนายราชเขต ณ ระนอง เจ้าของเดิมได้ประมูลมาเป็นเงินจำนวน 10 ล้านบาท ตนก็ได้จ่ายเงินเพื่อขอประมูลต่อค่าสัมปทานมาเป็นเงินจำนวน 24 ล้านบาท ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2556 และในเวลาต่อมานายชากานต์ ภาคภูมิ ผู้ต้องหาแก๊งอุ้มเครือข่าย พล.ต.ท.พงศ์พัฒน์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เข้ามาเปิดร้านขายแข็งตัดราคาจากก้อนละ 40 บาท ขายตัดราคาเหลือก้อนละ 25 บาท เพื่อกดดันให้ตนยกเลิกกิจการดังกล่าว             นายไตรสรณ์ กล่าวต่อว่า กลุ่มพรรคพวกนายชากานต์ ยังได้เข้ามาข่มขู่ห้ามตนขาย หากไม่ยินยอม จะได้รับอันตราย พร้อมยังกล่าวอ้างว่า ธุรกิจที่นายชากานต์ทำอยู่นั้นเป็นธุรกิจของสถาบัน สุดท้ายตนทนแรงกดดันไม่ไหวจึงตัดสินใจยกเลิกกิจการ จากนั้นตนก็ได้เข้าแจ้งความบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.คลองหลวง เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน             ทั้งนี้ ภายหลังจากที่นายไตรสรณ์ ให้ปากคำที่ สน.วัดพระยาไกร เสร็จสิ้น ก็มีรายงานว่า พนักงานสอบสวน สน.วัดพระยาไกร ได้ขออนุมัติศาลทหารกรุงเทพออกหมายจับ นายเจี๊ยบ ไม่ทราบชื่อนามสกุลจริง ชายไทยตามภาพสเก็ต เลขที่หมายจับเลขที่ 139/2557 ลงวันที่ 3 ธันวาคม 2557  ในข้อหาร่วมกันหมิ่นประมาทดูหมิ่นพระมหากษัตริย์พระราชินี รัชทายาท หรือผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ จ้างวานใช้ให้ผู้อื่นกระทำการร่วมกันทำร้ายผู้อื่น ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และร่วมกันข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใดไม่กระทำการใด หรือยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย เสรีภาพชื่อเสียง หรือทรัพย์ของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้นไม่กระทำการนั้นหรือยอมต่อสิ่งนั้นโดยมีอาวุธ โดยร่วมกันกระทำความผิดตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป             จากการตรวจสอบเพิ่มเติมทราบว่า นายเจี๊ยบถูกซัดทอดจากผู้ต้องหาที่ถูกจับไปก่อนหน้านี้ โดยระบุว่า นายเจี๊ยบเป็นตัวกลางแนะนำนพพร ศุภพิพัฒน์  ให้รู้จักกับนายชากานต์ ภาคภูมิ และนายเจี๊ยบเป็นคนนำเงินสดจำนวนหลายแสนบาทมาให้นายชากานต์เอาไปเป็นค่าจ้างให้กับแก๊งไกล่เกลี่ยหนี้ นอกจากนี้กลุ่มผู้ต้องหาได้ซัดทอดถึงนายเจี๊ยบพร้อมกับคำให้การของผู้เสียหายก็พูดถึงนายเจี๊ยบเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ดี หลังจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งติดตามตัวนายเจี๊ยบมาดำเนินคดีต่อไป แหล่งข่าว แนวหน้า ภาพ ข่าวสด

ปทุมธานีประเดิม 7 วันอันตรายวันแรก จยย.ถูกรถยนต์ชนท้ายตาย 1 เจ็บ 1 บริเวณถนนรังสิต-นครนายก คลองหนึ่ง สะพานแดง สาวสตาร์ทรถเก๋งคิดว่าเหยียบเบรก พลาดเหยียบคันเร่งพุ่งเข้าชนห้างโลตัสสาขาปทุมธานี เปิดเกมขอคืนพื้นที่ตำรวจเคลื่อนพล 7 กองร้อยล้อมวัดพระ ธรรมกายตังแต่เช้ามืดใช้มาตรการทางกฎหมาย ได้รับแจ้งสาวใหญ่หมดสติและเสียชีวิตข้างเตียง ภายในโรงแรมย่านปทุมธานี หลังสั่งเบียร์มาดื่มไม่ถึง 2 ขวด พบทารกเพศหญิงถูกนำมาทิ้งไว้หน้าบ้านไม่มีเลขที่ บริเวณชุมชนริมคลองตรงข้ามตลาดดอกไม้ตลาดไท