
พ.ต.ท.วัชรพงษ์ สิทธิรุ่งโรจน์ สว.สส.สภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำกำลังเข้าปิดล้อมปรานีอพาร์ทเมนท์ ชั้น 2 ห้อง 205 ซ.วัดบัวขวัญ ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จับกุมตัวนายออม นามสมมุติ อายุ 17 ปี, นายเดีย นามสมมุติ อายุ 17 ปี, นายอาร์ม นามสมมุติ อายุ 18 ปี, นายแอ๊ป นามสมมุติอายุ 17 ปี, นายภานุเดช หรือโอ เฝ้ากระโทก, นายกีรติ หรือเต้า เกษมเจริญ อายุ 23 ปี, นายกำพล หรือยาด รามอ อายุ 22 ปี กลุ่มนักเรียนและศิษย์เก่าโรงเรียนเทคโนโลยีไทยอาชีวะที่ร่วมกันก่อเหตุอุ้มฆ่านายสมเดช แก้วสุโข อายุ 16 ปี นักเรียนโรงเรียนเทคโนโลยีปทุมธานีชั้นปีที่ 1 จนเสียชีวิต และทิ้งศพบริเวณป่าหญ้าภายในซอยประยูรหงษ์ ถ.สาย340 ( ตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ) ต.ละหาร อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 ก.ค 2557 นายสมทรง แก้วสุโข อายุ 52 ปี เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองนนทบุรี สาขาย่อยรัตนาธิเบศร์ ว่านายสมเดช แก้วสุโข อายุ 16 ปี ลูกชายหายตัวไปขณะขี่รถจยย.ยี่ห้อฮอนด้า เอ็มเอชเอ๊กซ์ สีแดง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนออกไปเรียน ตั้งแต่ 16 ก.ค.2557และหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กระจายกำลังกันออกตามหาทั้งจากกลุ่มเพื่อนของผู้ตายและตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามจุดที่คาดว่าผู้ตายจะใช้เป็นเส้นทางผ่านไปเรียน กระทั่งพบว่ากล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพขณะที่ผู้ตายกำลังขี่รถจยย.โดยมีชายวัยรุ่นสวมหมวกแก๊ปนั่งซ้อนท้ายไปทางปากซ.สามัคคี เจ้าหน้าที่จึงนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปให้เพื่อนของผู้ตายดู ซึ่งเพื่อนของผู้ตายยืนยันว่าวัยรุ่นที่ซ้อนท้ายคือนายออมซึ่งเคยเป็นเพื่อนที่รู้จักกันมาก่อน เจ้าหน้าที่จึงเร่งตามหาตัวนายออมจนทราบว่านายออมมาเช่าห้องพักรวมกลุ่มมั่วสุมเสพกัญชาและเสพสี่คูณร้อยอยู่กับพรรคพวกจึงนำกำลังเข้าจับกุมนำตัวมาสอบสวนที่สภ.เมืองนนทบุรี
จากการสอบสวนนายออมรับสารภาพ โดยอ้างว่าก่อนหน้านี้มีนายแอ๊ป เพื่อนนักเรียนรุ่นน้องโรงเรียนไทยอาชีวะ บอกว่าถูกผู้ตายกับพวกใช้ปืนไล่ยิงจนได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดบริเวณปากซอยทานสัมฤทธิ์ และผู้ตายยังเที่ยวไปคุยโวในกลุ่มเพื่อน ว่าตนเองได้ยิงนักเรียนโรงเรียนคู่อริ ซึ่งสร้างความโกรธแค้นให้กับกลุ่มพวกตนเป็นอย่างมาก กระทั่งเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมาขณะที่ซ้อนท้ายรถจยย.นายโออยู่นั้นก็เห็นผู้ตายจอดรถจยย.อยู่หน้าโรงเรียนเบญจมราชานุสรน์ ตนจึงกระโดดลงจากรถและวิ่งไปขึ้นซ้อนท้ายรถของผู้ตายก่อนจะบอกให้ผู้ตายไปส่งที่บ้านเพื่อนภายในซอยทรายทอง กระทั่งมาถึงบ้านเพื่อนตนเองจึงถามผู้ตายว่าเป็นคนยิงเด็กรุ่นน้องตนเองใช่ไหม ซึ่งผู้ตายรับสารภาพว่าเป็นคนยิง ตนจึงพูดไปว่า?มึงรู้ใช่ไหมว่าจะต้องโดนอะไร งั้นมึงอโหสิกรรมให้กูด้วย? จากนั้นตนจึงโทรศัพท์เรียกนายเดียและนายแอ๊ปให้มาหาที่บ้านเพื่อน ก่อนที่ตนจะให้นายเดียเป็นคนขับรถจยย.ของผู้ตายโดยมีผู้ตายนั่งตรงกลางและตนเองเป็นคนนั่งปิดท้ายประกบไปยังจุดที่เกิดเหตุ เมื่อไปถึง นายเดียจอดรถที่ข้างทางก่อนจะลงจากรถมาด้วยกันทั้ง 3 คนเพื่อพูดคุยแต่ผู้ตายพยายามต่อสู้ขัดขืน ตนจึงใช้มีดที่เตรียมมาจ้วงแทงไปที่ชายโครงซ้ายของผู้ตาย 1 ครั้งจนเกิดการต่อสู้ชุลมุนล้มกลิ้งลงไปในป่าหญ้า ด้วยความโมโหที่ผู้ตายต่อสู้ตนจึงใช้มีดกระหน่ำแทงตามลำตัวแบบไม่ยั้งมือจนผู้ตายนอนนิ่งจมกองเลือดอยู่กับพื้น ก่อนที่ตนจะใช้มีดจ้วงแทงไปที่คออีก 1 ครั้ง แล้วปามีดทิ้งเข้าไปในป่าหญ้าและรีบขับรถหลบหนีออกมาจากที่เกิดเหตุทันทีก่อนจะมาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หน้าตลาดสมบัติบุรีและนำหมวกกับเสื้อผ้าเผาทิ้งในถังขยะเพื่อทำลายหลักฐานและโทรศัพท์ติดต่อให้นายเต้า มานำรถของผู้ตายไปขายในราคา 8 พันบาท ก่อนจะนำเงินที่ได้มาซื้อยาเสพติดมาแบ่งกันเสพจนมาถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
แหล่งข่าว http://breakingnews.nationtv.tv/