เมื่อเวลา 22.00 น.น้ำเน่าเสียจากเรือบรรทุกน้ำตาลทรายล่มที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ส่งผลกระทบน้ำเสียในแม่น้ำเจ้าพระยาได้ไหลผ่านตามอำเภอและตำบลต่างๆจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้าเขตอำเภอสามโคก และกำลังเข้าตัวเมืองปทุมธานี

       เป็นเหตุให้ปลาทุกชนิดโผล่หัวลอยคอขึ้นมาหายใจเต็มริมแม่น้ำเจ้าพระยาทำให้ชาวบ้านโดยเฉพาะหมู่บ้านข้างวัดเจดีย์ทองได้มีปลาราหูขนาดกว้างกว่า 3 เมตร ยาวกว่า 6 เมตร น้ำหนักกว่า 300 กก. ได้ลอยเกยตื้นริมน้ำเจ้าพระยาชาวบ้านได้ช่วยกันนำไว้ข้างทางเดินโดยมีนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมด้วยนายทะนง ทแกล้วทศพล ประมงจังหวัด หลังรับแจ้งว่ามีปลาจำนวนมากโผล่ลอยคอหายใจ จึงได้ไปช่วยเหลือปลาราหูโดยให้เจ้าหน้าที่ศูนย์ประมงบางไทร มารับปลาราหูไปอนุบาลที่ศูนย์ศิลปะชีพบางไทร ต่อมาปลาได้เสียชีวิตลง

       ทางด้านชาวบ้าต่างพากันออกมาใช้ไฟฉายส่องริมทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยานำสวิงช้อนตักปลา ซึ่งมีปลาม้าตัวละหลายกีโล ปลาตระโกก ปลาลิ้นหมา ปลาเนื้ออ่อน ปลาน้ำเงิน ปลาเครา โดยเฉพาะกุ้งแม่น้ำชาวบ้านได้ลงทุนงมกุ้งตามใต้ถุนบ้านได้ไปคนละหลายสิบกีโล นอกจากนี้ยังมีเรือพายที่ชาวบ้านนำมาพายหาปลาในแม่น้ำจำนวนหลายสิบลำใช้ไฟส่องนำฉมวกมาแทงปลาที่โผล่หัวลอย แต่ละรายได้ปลาไปเต็มท้องเรือ

       ทางด้านนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้กล่าวว่าขณะนี้น้ำเสียได้ไหลลงมาตลอดถึงแม้นจะเจือจางไปบางส่วนแต่ก็ทำให้ปลาเสียชีวิตไปจำนวนมากและคาดว่าในค่ำคืนนี้น้ำจะไหลไปทางจังหวัดนนทบุรีต่อไป และเป็นห่วงปลาหน้าวัดที่มีปลาสวายลอยหัวโผล่หาอากาศหายใจ ซึ่งทางวัดได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำพ่นน้ำหมุนเวียนก็จะช่วยปลาได้บางส่วนเท่านั้นและในวันพรุ่งนี้จะให้ประมงจังหวัดปทุมธานี ไปแจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทน้ำตาลทรายที่ทำเรือล่มส่งผลกระทบให้ปลาธรรมชาติเสียชีวิตจำนวนมากต่อไป.