เมื่อเวลา14.50 น.ของวันที่ 28 มี.ค.54 พ.ต.ท.สุขสันต์ ผาสุข สารวัตรเวรสอบสวน สภ.สามโคก ได้รับแจ้งจาก พ.ต.ท.พิสิษฐ์ ล้ำเลิศ สว.สส.สภ.สามโคก ว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนของ สภ.สามโคกจำนวนหนึ่งเข้าทำการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดแล้วเกิดการปะทะกันมีเจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงได้รับบาดเจ็บและสามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดไว้ได้ให้มาตรวจสอบ ที่เกิดเหตุบริเวณสะพานข้ามคลองโคกตาเขียว หมู่ที่4 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก หลังรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบและรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.วัฒนา เขตร์สมุทร ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.สืบพงษ์ ภาษยะวรรณ พ.ต.อ.วิสูตร ฉัตรชัยเดช รองผบก.จว.ปทุมธานี พ.ต.อ.สมหมาย นาคสีหมอก ผกก.สภ.สามโคก พ.ต.ท.ธวัชชัย อาภาขจร สวป.สภ.สามโคก และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจของสภ.สามโคกอีกจำนวนหนึ่ง

       ที่เกิดเหตุบริเวณคอสะพานข้ามคลองโคกตาเขียวมุ่งหน้าถนนเลียบคลองเปรมประชากร พบกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจำนวนหนึ่ง อยู่ระหว่างควบคุมตัวชาย2คน ทราบชื่อต่อมานายไพฑูรย์ ปั้นศรี อายุ 35 ปี อยุ่บ้านเลขที่ 40 หมู่ที่7 ต.บ้านยาง อ.เกษตรสมบูรณ์ จ.ชัยภูมิ และนายสุรสิทธิ์ ชื่นอารมย์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 47 หมู่ที่6 ต.สิงหนาท อ.ลาดบัวหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา

       พ.ต.ท.พิสิษฐ์ ล้ำเลิศ สว.สส.สภ.สามโคก ร.ต.อ.นิยม พึ่งเป้า รอง สว.สส.และ ดต.สุรินทร์ วงศ์ครุฑธ์ ผบ.หมู่ป้องกันปราบปราบ เปิดเผยด้วยสีหน้าตื่นตกใจ ว่า สืบเนื่องมาจาก ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการนัดส่งยาบ้ากันบริเวณสะพานข้ามคลองโคกตาเขียว หมู่ที่4 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจำนวน7นาย ไปดักซุ่ม บริเวณจุดที่ได้รับแจ้งตามเวลาที่นัดหมาย และได้มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่พร้อมรถยนต์ไว้ตามเส้นทางดังกล่าว ทันใดนั้นได้มีรถยนต์ยี่ห้อนิสสันรุ่นบิ๊กเอ็ม สีทองด้านหลังมีคอกเหล็ก หมายเลขทะเบียน ตช-1647 กทม เปิดไฟส่องสว่างด้านหน้ารถเพื่อให้สัญญาณตามที่สายลับได้แจ้งเอาไว้ เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจแสดงตัวจับกุมโดยมี จ.ส.ต.จารึก เกิดสมบัติ อายุ 37 ปี ผบ.หมู่งานสืบสวน และนายพลพิศ นาถาดทอง อายุ 40 ปี เจ้าหน้าที่ต.ช.ต.ของ สภ.สามโคก เข้าทำการจับกุม ทันใดนั้นคนร้ายซึ่งเป็นชาย2คนที่นั่งอยู่ภายในรถได้ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ ที่พยายามเข้าจับกุมจนได้รับบาดเจ็บ หลักเกิดเหตุคนร้ายพยายามรถคันดังกล่าวหลบหนีมุ่งหน้าถนนเลียบคลองเปรมประชากร แต่ไม่สามารถ หลบหนีไปได้เนื่องจากมีเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้รถยนต์ส่วนตัวปิดถนนเพื่อไม่ให้คนร้ายนั้นหลบหนี ในเวลานั้นเอง พ.ต.ท.พิสิษฐ์ ล้ำเลิศ สว.สส.สภ.สามโคก จึงได้ตัดสินใจคลานเข้าไปบริเวณป่าหญ้าริมทางเพื่อเข้าทำการชาร์ตจับกุมตัวสองคนร้าย โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนพร้อมอาวุธครบมือคอยคุ้มกันอยู่และสามารถจับกุมผู้ต้องหาทั้งสองไว้ได้ในสภาพทุลักทุเล พร้อมรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ

       จากการตรวจสอบภายในรถยนต์คันดังกล่าวพบอาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์เบอร์12จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนลูกซองจำนวน5นัด มีสปราต้า1เล่ม กระเป๋าหนังคาดเอวสีน้ำตาลจำนวน1ใบภายในพบสมุดบัญชีธนาคารต่างๆบัตรเอทีเอ็ม และยาบ้าจำนวน2มัด หรือ 4000เม็ด ซุกซ่อนอยู่บริเวณที่ว่างเท้าใต้เบาะคนนั่ง และภายในคูน้ำข้างทางเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืนลูกซองที่ใช้แล้วจำนวน1ปลอกซึ่งเป็นของคนร้ายที่พยายามขว้างทิ้งเจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

       จากการสอบสวนเบื้องต้น นายไพฑูรย์ ปั้นศรีหรือทูล อายุ 35 ปี ให้การรับสารภาพว่าตนพร้อมด้วยนายสุรสิทธิ์ ชื่นอารมย์ หรือเต้ย อายุ 28 ปี ได้รับการว่าจ้างให้ขับรถไปรับยาบ้าบริเวณริมถนนสายศูนย์ศิลปาชีพบางไทรหน้าบริษัททีทีแอนด์ที เพื่อมาส่งมอบให้กับลูกค้าบริเวณจุดเกิดเหตุ ตามเวลาที่ได้นัดไว้ แต่มาถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงตัวเข้าทำการจับกุม ด้วยความตกใจ นายไพฑูลย์ หรือ ทูล จึงได้ยิงปืนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน1นัดเพื่อเปิดทางหลบหนี และมาถูกจับกุมได้ในที่สุด นายไพฑูรย์ ยังเผยอีกว่า หากมีการส่งมอบสินค้าเสร็จจะได้ค่าตอบแทนจำนวน1หมื่นบาท

       ทางด้านพ.ต.ท.พิสิษฐ์ ล้ำเลิศ สว.สส.สภ.สามโคก เปิดเผยต่อไปอีกว่า ผู้ต้องหาทั้งสองคนนั้นเพิ่งจะพ้นโทษจากเรือนจำสามโคก ในคดียาเสพติดและเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อประมาณสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา หลังจากพ้นโทษแล้วยังได้ออกมาค้ายาเสพติดในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยาอีก เจ้าหน้าที่พยายามจับกุมมาแล้วหลายเที่ยวแต่คนร้ายไหวตัวไปได้ ส่วนอาการของตำรวจและเจ้าหน้าที่ต.ช.ต.ที่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากโดนกระสุนลูกปลายของอาวุธปืนลูกซองเข้าที่สะโพก กระสุนฝังใน นั้นรักษาตัวอยู่ที่รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติศูนย์รังสิต แพทย์อยู่ระหว่างฝ่าตัดนำหัวออกเพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่านแล้ว