ReadyPlanet.com
ปทุมธานีปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ รับมือน้ำเหนือไหลหลาก

 


ทีมปทุมธานี ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุ รับมือน้ำเหนือไหลหลาก กรณีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เพิ่มการระบายน้ำ ผ่านคลองระพีพัฒน์ ป้องกันไม่ให้ท่วมปทุมธานี และไม่ให้ไหลเข้าสู่กทม.และนนทบุรี
 
นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในระหว่างวันที่10-12 ตุลาคม 2559 นายสุรชัย ขันอาสา ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้สั่งการให้รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี, รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดปทุมธานี, นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี, ผู้อำนวยการโครงการชลประทานรังสิตเหนือ, ผู้อำนวยการโครงการชลประทานรังสิตใต้, ท้องถิ่นจังหวัด, หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด, หัวหน้าส่วนราชการทุกแห่ง, นายอำเภอทั้ง 7 อำเภอ, นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง, กำนันผู้ใหญ่บ้านทุกพื้นที่ ปฏิบัติตามแผนเผชิญเหตุรับการระบายน้ำเหนือจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เต็มรูปแบบ ในอัตราสูงสุด 210 ลบ.ม./วินาที ด้วยการระบายผ่านคลองระพีพัฒน์แยกใต้ (คลอง13) ในอัตราสูงสุด130ลบ.ม./วินาที
 
โดยบริหารน้ำให้เหมาะสมกับศักยภาพ คลอง 13 ที่มีข้อจำกัดเรื่องถนนทรุดตัวจากภัยแล้งเมื่อ 2 ปีก่อน ซึ่งได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบท, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ทหาร, ชลประทาน ลงหินคลุก, กระสอบทราย ให้สูงเท่าระดับถนนเดิม เพื่อป้องกันน้ำล้นเข้าท่วมพื้นที่เกษตร พร้อมจัดรถแบคโฮ ออกตระเวนตักเก็บผักตบชวาและสวะที่ไหลมากะน้ำเหนือ ติดที่คอสะพาน ทุกสะพาน เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคการระบายน้ำและไม่ให้เกิดความเสียหายต่อสะพานและดำเนินการลดการผันน้ำไปด้านตะวันออก เพื่อไม่ให้กระทบกับ จังหวัดนครนายก โดยผันเพิ่มมาทางประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ คลองรังสิต อ.ธัญบุรี มากขึ้น
 
นอกจากนี้ยังให้มีการระบายผ่านคลองระพีพัฒน์แยกตก ในอัตราสูงสุด 80 ลบ.ม./วินาที โดยจัดกำลังเจ้าหน้าที่ทางหลวงชนบท, องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น, ทหาร, ชลประทาน ลงหินคลุก, กระสอบทราย ให้สูงเท่าระดับถนนเดิม เพื่อป้องกันน้ำล้นคันท่วมพื้นที่เกษตร พร้อมกับตักเก็บผักตบชวา, สวะ ที่ไหลมากะน้ำเหนือ คลองเชียงรากน้อย เพื่อตัดน้ำเหนือสูบระบายลงแม่น้ำเจ้าพระยาที่ประตูเชียงรากน้อย 30 ลบ.ม./วินาที ขณะเดียวกันได้มีการระบายน้ำผ่านคลองเปรมประชากรเหนือ เพื่อลงคลองรังสิต(หลังประตูน้ำจุฬาฯ) 10 ลบ.ม./วินาทีและระบายน้ำผ่านคลอง 1,2,3,4 ในอัตราคลองละ10ลบ.ม./วินาที เพื่อลงคลองรังสิต เข้าสถานีสูบประตูน้ำจุฬาฯ อีก 40 ลบ.ม./วินาที
 
รองผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี กล่าวเพิ่มอีกว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้สั่งให้ทีมปทุมธานีเพิ่มประสิทธิภาพการสูบระบายน้ำคลองรังสิต ที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ (กำลังสูบสูงสุด108ลบ.ม./วินาที) ด้วยการติดตั้งเรือผลักดันน้ำ อบจ. หน้าประตูน้ำจุฬาฯ 9 ลำ เพื่อเร่งให้น้ำไหลเข้าหัวสูบได้มากขึ้น เร็วขึ้น พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ทหาร, รถขุดของกรมชลประทาน ดักเก็บผักตบชวาและสวะ ที่หน้าประตูน้ำจุฬาฯ เพื่อให้น้ำไหลเข้าหัวสูบเร็วขึ้น สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพการสูบระบายน้ำ คลองรังสิต ที่ประตูน้ำปากคลองรังสิต (กำลังสูบสูงสุด 120 ลบ.ม./วินาที) มีการจัดรถขุดแขนยาวปภ.ตักเก็บผักตบชวาและสวะ ที่แพดักสวะก่อนถึงประตูปากคลอง และจัดรถขุดแขนยาวอบจ. , เรือเก็บผักตบ เทศบาลตำบลธัญบุรี ตักเก็บผักตบชวาและสวะที่หลุดมาถึงประตูปากคลองที่หน้าหัวสูบ เพื่อให้น้ำไหลเข้าหัวสูบเร็วขึ้น
 
ซึ่งขณะนี้ยังรักษาพื้นที่ด้านตะวันออกของปทุมธานีได้ทั้งหมด ไม่มีพื้นที่ใดถูกน้ำท่วม ยังสามารถควบคุมน้ำไม่ให้ไหลผ่านเข้ากทม. และนนทบุรี ได้ทั้งหมด ทั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานีได้บูรณาการกำลังทุกภาคส่วน เผชิญสถานการณ์อย่างพร้อมเพรียง ตามแผนเผชิญเหตุที่วางไว้ เพื่อลดความเดือดร้อนของประชาชนตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการของกระทรวงมหาดไทย ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ มั่นใจว่ายังสามารถรับมือกับการปล่อยน้ำเพิ่มของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ไม่ให้กระทบพื้นที่ด้านตะวันออกของปทุมธานีได้ และยังช่วยป้องกันไม่ให้น้ำเหนือไหลเข้ากทม.และนนทบุรีได้ตามแผนที่วางไว้

แหล่งข่าว ข่าวสาร ปทุมธานี

 




ข่าวสารเมืองปทุม

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์
โครงการฉีดวัดซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ๔ สายพันธุ์
ผู้ว่าฯ ปทุมธานี นำข้าราชการและประชาชนทำบุญ ตักบาตรข้าวสาร-อาหารแห้ง ในวันขึ้นปีใหม่ 1 มกราคม 2560 เพื่อความเป็นสิริมงคลในการเริ่มต้นศักราชใหม่
เกิดเหตุทำร้ายร่างกายบริเวณริมเขื่อนสะพานแดงคลองหนึ่งชายถูกอาวุธแม่ไม้มวยไทยได้รับบาดเจ็บ
เปิดโครงการรวมพลคนกู้ภัยสานพลังประชารัฐอาสากู้ภัยร่วมสร้างสังคมไทยปลอดภัยยั่งยืนประจำปี 2559 ที่ ศูนย์ประชุมธรรมศาสตร์รังสิตจังหวัดปทุมธานี