วิเคราะห์ราคาทองคำ โดย จีทีเวลธ์ฯ 18-04-13 พักฐานต่อหลังไม่ผ่านต้านเมื่อวาน Strategy Summary: ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก โดยวานนี้ IMF ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจของปีนี้และปีหน้าลง ราคาน้ำมันดิบยังปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องทำให้ความกังวลในเรื่องของเงินเฟ้อหายไป กดดันราคาทองคำซึ่งมีฐานะเป็นสินทรัพย์ประกันความเสี่ยงในเรื่องของเงินเฟ้อ SPDR ซึ่งเป็นกองทุนทองคำรายใหญ่ขายต่อเนื่องอีก 11.13 ตัน ทางเทคนิคหลัง Rebound ขึ้นทดสอบต้านเมื่อวาน US$1,400 อ่อนตัวลงตามแนวโน้มเดิมขาลง รับสำคัญ US$1,300-1,310 ฐานเดิม กลยุทธ์แนะนำ ยังไม่แนะนำสวน Trend ตลาด ข้าง Short ตามที่แนะนำเมื่อวานปิดทำกำไรอีกครั้ง Technical Page Gold Spot : ราคาทองคำอ่อนตัวลงอีกครั้งหลังจาก Rebound ขึ้นทดสอบแนวต้าน US$1,400 เมื่อวาน แนวโน้มเป็นขาลงโดยการอ่อนตัวลงมาใกล้ระดับเดิมก่อนหน้า แม้จะมีสัญญาณ Oversold แต่ยังไม่แนะนำสวน Trend ตลาดเนื่องจากราคาเพิ่งหลุดแนวรับสำคัญ US$1,500 ช่วงสั้นมองยืนได้เหนือฐานเดิม US$1,300-10 แนวรับ US$1,340, US$1,320 และ US$1,310 แนวต้าน US$1,400, US$1,415 และ US$1,450 กลยุทธ์ สำหรับนังลงทุนถือข้าง Short ปิดทำกำไรอีกครั้ง โดยยังไม่แนะนำการเปิดสถานะข้าง Long เนื่องจากราคาเพิ่งเข้าสู่ช่วงขาลง Fundamental Page Market Summary ราคาทองคำในตลาดโลกฟื้นตัวเล็กน้อย โดยปิดบวก 8.71 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ มาปิดที่ระดับ 1,376.50 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ ราคาทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และยุโรปต่างปรับตัวลง โดย IMF คาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจโลกปีนี้และปีหน้า อยู่ที่ระดับ 3.3% และ 4.0% ตามลำดับ ปรับลดลงจากการประมาณการครั้งก่อน ขณะที่ราคาน้ำมันดิบยังคงปรับตัวลงต่อเนื่อง โดยวานนี้น้ำมันดิบเบรนท์ตลาด ICE เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 100 ดอลล่าร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล์ล ทำให้ความกังวลในเรื่องของเงินเฟ้อลดลง ส่งผลลบต่อราคาทองคำในฐานะประกันความเสี่ยงอัตราเงินเฟ้อ ค่าเงินยูโรเทียบดอลลาร์สหรัฐฯอ่อนค่าลงกว่า 1% หลังนายเจนส์ วีดแมนน์ กรรมการ ECB และประธานธนาคารกลางเยอรมนีกล่าวว่า ECB อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงหากวิกฤตเศรษฐกิจยูโรโซนย่ำแย่ลง ค่าเงินบาทแข็งค่าเล็กน้อยใกล้ 28.85 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคำอย่างต่อเนื่อง 11.13 มาอยู่ที่ระดับ 1,134.79 ตัน นับเป็นระดับต่ำสุดตั้งแต่เม.ย. 2010 News Feeder ราคาทองได้รับแรงกดดันในช่วงแรกจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจ โดยการดิ่งลง อย่างรุนแรงของตลาดหุ้นสหรัฐและราคาสินค้าโภคภัณฑ์อุตสาหกรรม ซึ่งรวมถึงทองแดง และน้ำมันดิบ ยังคงส่งผลลบต่อทอง ซึ่งเป็นเครื่องมือทำประกันความเสี่ยงจากภาวะ เงินเฟ้อ มีสัญญาณบ่งชี้ว่าอุปสงค์ทองในตลาดปัจจุบันในเอเชียเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะใน อินเดีย ซึ่งเคยเป็นประเทศที่ใช้ทองมากที่สุดในโลก นอกจากนี้ นักลงทุนในเหรียญทอง ยังเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรเมื่อราคาทองดิ่งลงด้วย อินเดียจะฉลองเทศกาล Akshaya Tritiya ในเดือนหน้า ซึ่งเป็นช่วงที่มีการซื้อทองเป็นจำนวนมาก ยูโรร่วงลงมากที่สุดในรอบเกือบ 1 ปีเมื่อเทียบกับดอลลาร์ในวันพุธ โดยอ่อนลงจากข่าวเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในยูโรโซน จุดสนใจของตลาดอยู่ที่นโยบายการเงินในยุโรป หลังนายเจนส์ วีดแมนน์ กรรมการธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เปิดเผยต่อวอลล์สตรีท เจอร์นัลว่า อีซีบีอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหากภาวะเศรษฐกิจในยูโรโซนย่ำแย่ลง ผู้กำหนดนโยบายทั่วโลกจะหารือถึงผลกระทบของการผ่อนคลายนโยบายการเงินแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในการประชุมที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์นี้ รวมทั้งวิธีการที่ธนาคารกลางต่างๆจำเป็นต้องใช้ในการยุติการอัดฉีดเงินทุนดอกเบี้ยต่ำเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลก ธนาคารกลางญี่ปุ่นได้ร่วมกับธนาคารกลางชั้นนำอื่นๆในการ ดำเนินนโยบายกระตุ้นแบบเชิงรุก IMFประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจ โลกประจำปีนี้และปีหน้า โดยมีการพิจารณารวมถึงปัจจัยการตัดงบประมาณรายจ่าย ครั้งใหญ่ของรัฐบาลสหรัฐ และวิกฤติหนี้ของยุโรป ไอเอ็มเอฟคิดว่า เป็นเรื่องเหมาะสมสำหรับประเทศพัฒนาแล้วที่จะคงมาตรการกระตุ้นต่อไป แต่ไอเอ็มเอฟก็เรียกร้องให้ผู้กำหนดนโยบายเริ่มทบทวนถึงผลกระทบหลังจากการยุตินโยบายที่ผ่อนคลายเป็นพิเศษ   แหล่งข้อมูล  http://www.goldtraders.or.th/