เพจ facebook : รังสิตซิตี้ที่นี่ปทุมธานี

ถนนเมืองเอกอัมพาตหลังปิดสะพานนศ.ร้อง นั่งรถจากหน้าเมืองเอกเข้า ม.รังสิต นานถึง 45 นาที ผู้ประกอบการรถโดยสาร โวยทางเบี่ยงรถติดมาก เชื่อมาจากการสร้างทางเบี่ยงแบบคอขวดทำให้รถติดสะสม ชี้ทางเบี่ยงไม่ปลอดภัยในการขับขี่ ระบุ ม.รังสิตกับชาวบ้านเมืองเอก สนใจแต่เรื่องการสร้างสถานีรถไฟชานเมืองหลักหก ไม่สนใจทำทางยกระดับคู่ขนานกับสะพานเดิมก่อนทุบ ด้านนศ.ร้อง นั่งรถจากหน้าเมืองเอกเข้า ม.รังสิต นานถึง 45 นาที แนะมีรถกระจายเสียงบอกนักศึกษาเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น ด้านเทศมนตรีตำบลหลักหก ยอมแพ้ สั่งอิตัลไทย ยกแบริเออร์ออก หลังถนนอัมพาตหนัก ลั่นหากทางเบี่ยงไม่พร้อม ไม่มีตำรวจมาคุมไฟจราจรจะไม่ยอมให้ปิดสะพาน
จากกรณีมีการปิดสะพานเอกทักษิณ เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันนี้ (7 กรกฎาคม 2557) เพื่อเตรียมการทุบสะพานก่อสร้างโครงการรถไฟชานเมือง(สายสีแดง)ช่วงบางซื่อ-รังสิต ส่งผลให้การจราจรในหมู่บ้านเมืองเอกติดขัด เนื่องจากรถทุกชนิดต้องเปลี่ยนมาใช้เส้นทางเบี่ยงชั่วคราว
ผู้ประกอบการรถโดยสารรายหนึ่งกล่าวว่า จากการใช้ทางเบียงเป็นทางการในวันแรกพบว่า ทางเบี่ยงส่งผลให้การจราจรติดค่อนข้างมาก ก่อนหน้านี้ทางผู้ประกอบการรถโดยสารได้มีการพูดคุยเรื่องการจราจรกับทางบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เทศบาลหลักหก ชาวหมู่บ้านเมืองเอก และมหาวิทยาลัยรังสิตแล้วในเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าทางเบี่ยงในลักษณะคอขวดที่อิตาเลียนไทยฯ เสนอมานั้นจะส่งผลให้การจราจรหนาแน่นขึ้น จนทำให้รถติดสะสมยาวจากสะพานจนมาถึงบริเวณมหาวิทยาลัยรังสิต อีกทั้งการใช้เส้นทางเบี่ยงควรจะมีป้ายเตือนเพื่อบอกผู้ขับขี่ตั้งแต่ต้นทาง ไม่ใช่บอกในระยะกระชั้นชิด และควรจะมีสัญญานไฟจราจรก่อนหน้าที่จะถึงทางเบี่ยง
"เมื่อวานนี้ตนทราบข่าวว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นจากการใช้ทางเบี่ยง จึงเชื่อว่าทางเบี่ยงฯ นั้นความปลอดภัยไม่เพียงพอ ทั้งนี้ทางผู้ประกอบการรถโดยสารเคยเสนอให้ทำเป็นทางยกระดับคู่ขนานกับสะพานเดิมก่อนทุบสะพาน แต่ก็ไม่ได้มีผู้ใดสนใจเรื่องนี้ ทั้งมหาวิทยาลัยรังสิตและชาวชุมชนเมืองเอกมัวแต่ให้ความสนใจในการสร้างสถานีรถไฟหลักหกมากกว่า" ผู้ประกอบการรถโดยสาร กล่าว
ด้านนักศึกษามหาวิทยาลัยรังสิต ผู้ใช้บริการรถสองแถวที่ใช้เส้นทางเบี่ยงขาเข้าจากหน้าเมืองเอกเข้ามหาวิทยาลัยวันนี้ กล่าวว่า เดิมทีตนเดินทางจากปากทางเข้าเมืองเอกถึงมหาวิทยาลัยรังสิตใช้เวลาไม่เกิน 15นาที แต่วันนี้กลับใช้เวลา ถึง 45 นาที ทำให้เสียเวลามากขึ้น จากการสังเกตพบว่ามีการปล่อยสัญญาณไฟเขียวระบายรถฝั่งขาออกจากเมืองเอกนานกว่าปกติ ทำให้ฝั่งขาเข้าติดนานขึ้น หากเป็นเช่นนี้ในช่วงเวลาที่ต้องรีบมาเข้าเรียนอาจส่งผลให้ตนเสียการเรียนได้ และหากยังเกิดปัญหารถติดเช่นวันนี้อีก ตนอาจต้องเปลี่ยนไปใช้บริการรถจักรยานยนต์รับจ้างแทน ส่งผลให้มีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นอีก
![]() ![]() "ทางมหาวิทยาลัยควรจะมีรถกระจายเสียงประกาศให้นักศึกษาและคนที่เข้าออกในมหาวิทยาลัยทราบ ว่าขณะนี้มีการปิดถนน การจราจรบนทางเบี่ยงติดขัด เพื่อเป็นทางเลือกให้นักศึกษาตัดสินใจในการเลือกใช้เส้นทางอื่น" นักศึกษารายหนึ่งกล่าว
แหล่งข่าวจากบริษัท อิตาเลี่ยนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเทศบาลหลักหกได้มีการขอให้ยกแท่นปูน หรือแบริเออร์ที่ปิดสะพานออกจากพื้นที่แล้ว เพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรที่ติดขัดอย่างหนัก และคาดว่าน่าจะพร้อมกลับมาปิดเส้นทางอีกครั้งใน 2-3 วันข้างหน้า ทั้งนี้ต้องรอการอนุมัติจากเทศบาลตำบลหลักหกอีกครั้ง โดยในระหว่างนี้จะมีการตีเส้นทางการจราจรเพิ่มเติม และติดตั้งป้ายบอกทางประชาสัมพันธ์การใช้ทางเบี่ยงเพิ่มเติม เพื่อลดปัญหาการจราจรในครั้งต่อไป
ด้านนายสมพงษ์ ศรีอนันต์ นายกเทศมนตรีตำบลหลักหก กล่าวถึงกรณีที่เทศบาลตำบลหลักหกขอให้ทางอิตาเลียนไทยฯนำแท่นปูนที่ปิดสะพานเอกทักษิณออกก่อน ว่าการปิดเส้นทางดังกล่าวเป็นสาเหตุให้การจราจรหนาแน่นมาก เมื่อระบายรถจากเมืองเอกไม่ทันจึงมีการขอให้ยกแท่นปูนออก ทั้งนี้เมื่อมีการใช้ทางเบี่ยง ผู้ที่สัญจรเข้ามาจึงมีทั้งรถที่มาจากตลาดสี่มุมเมืองและดอนเมือง เมื่อทางเบี่ยงที่สร้างนั้นยังไม่สามารถใช้ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ คือ ไฟเตือนก็ยังไม่พร้อม สัญญาณไฟจราจรก็ยังไม่มีตำรวจมาเป็นผู้ควบคุมสัญญาณไฟ จึงทำให้เกิดปัญหารถติดหนัก และเมื่อวานนี้ยังเกิดอุบัติเหตุขึ้นในบริเวณเส้นทางเบี่ยงอีกด้วย
"ทางอิตาเลี่ยนไทยฯ ควรจะดำเนินการให้ทางเบี่ยงพร้อมก่อน โดยทางเทศบาลจะไม่ยอมให้มีการวางแบริเออร์ปิดทางอีก หากทางเบี่ยงนั้นยังไม่เรียบร้อย ซึ่งต้องคำนึงด้วยว่าหากมหาวิทยาลัยรังสิตเปิดภาคเรียนที่ 1 จะมีนักศึกษาเดินทางด้วยเส้นทางดังกล่าวมากขึ้นเป็นเท่าตัว อาจจะส่งผลให้การจราจรนั้นติดขัดมากกว่าเดิม" นายสมพงษ์ กล่าว
แหล่งข่าว jr-rsu.net
|
ข่าวเด่นเมืองปทุม