ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ ถนนปทุม-เชียงราก ต.บ้านปทุม, ต.บ้านงิ้ว ,ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี เร่งระดมกำลังกรอกกระสอบทรายกั้นริมถนนกั้นน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ล้นเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน วัด และโรงเรียน อีกทั้งขณะนี้ปริมาณน้ำมากจนล้นข้ามถนน ชาวบ้านต้องเร่งช่วยกันกั้นคันกระสอบทรายป้องกันน้ำไม่ให้เข้าท่วมพื้นที่ชั้นใน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีบ้านเรือนประชาชน หมู่บ้าน และเป็นย่านนิคมอุตสาหกรรมที่สำคัญ เจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี นำรถแบ๊คโฮ ตักดินเพื่อกั้นเป็นแนวกั้นเพิ่มอีกชั้น และนำเครื่องสูบน้ำมาสูบน้ำออกจากบ้านเรือนและวัดลงคลองเล็ก เพื่อป้องกันน้ำ ส่วนด้านการจราจรในเส้นทางดังกล่าวซึ่งเป็นทางสวนเป็นไปด้วยความลำบาก เนื่องจากมีน้ำเข้าท่วมล้นถนนแล้ว จึงควรหลีกเลี่ยงกันใช้เส้นทางถนนปทุม-เชียงราก และใช้เส้นทางถนน 347 ปทุมธานี - ศูนย์ศิลปาชีพบางไทร เพื่อความสะดวกในการสัญจร

      นายชาญ พวงเพ็ชร์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ที่นำกำลังเจ้าหน้าที่และกระสอบทรายมาทำการทำเขื่อนกั้นขอบทางเพื่อป้องกันน้ำท่วมถนน กล่าวว่า ในวันนี้น้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาเอ่อท่วมขึ้นมาอีกมากขึ้น ทำให้กระน้ำไหลบ่าเข้ามาในพื้นที่ ต.บ้านปทุม ต.บ้านงิ้ว ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จึงได้รีบนำกระสอบทรายมาทำเขื่อนกั้นน้ำ ทั้งนี้ถ้าปริมาณน้ำมากขึ้นและบ่าท่วมข้ามฝั่งมาเป็นจำนวนมาก อาจจะกระทบต่อพื้นที่การเกษตรของชาวบ้านที่ปลูกข้าวอยู่ด้วย จึงต้องเฝ้าระมัดระวังอย่างเต็มที่เพราะถนนเส้นนี้ถือเป็นแนวเขื่อนชั้นในก็ว่าได้

      ส่วนที่ชุมชนบ้านกระแชง ต.บ้านกระแชง อ.เมือง จ.ปทุมธานี บริเวณวัดโพธิ์เลื่อน และอบต.บ้านกระแชง ระดับน้ำสูงท่วม ชาวบ้านยังคงร่วมแรงกันเร่งกรอกกระสอบทรายกั้นเพิ่มอีกซึ่งเป็นการป้องกันน้ำเบื้องต้นที่สามารถทำได้ในขณะนี้เพื่อไม่ให้เข้าท่วมบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่อีกหลายหลังคาเรือน

      และในวันนี้เป็นวันออกพรรษา ชาวบ้านในพื้นที่ อ.เมือง และอ.สามโคก เดินทางออกมาทำบุญกันน้อยกว่าทุกปี เนื่องจากทั้งวัดต่าง ๆ และบ้านเรือนถูกน้ำท่วม การเดินทางจึงมาด้วยความยากลำบาก หลายวัดที่ถูกน้ำท่วมสูง ต้องทำสะพานไม้เป็นทางเดินเข้าไปในวัด เพื่อให้ชาวบ้านเดินทางเข้ามาทำบุญตามประเพณีชาวพุทธ