เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 15 ตุลาคม 2553 ร.ต.ท.วัชรพงษ์ เทียนอุปถัมภ์ ร้อยเวรสอบสวน สภ.ย่อยนวนคร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโครงการบ้านเอื้ออาทรว่าสามารถควบคุมตัวคนร้ายงัดห้องพักภายในหมู่บ้านฯได้ที่โครงการหมู่บ้านเอื้ออาทร คลองหลวง หมู่ 19 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบและจับกุมตัวไปสอบสวนด้วย หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเดินทางไปตรวจสอบ

      เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและชาวบ้านควบคุมตัวคนร้ายไว้ได้ ทราบชื่อคือ นาย กิตติศักดิ์ สายชล อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16/3 หมู่ 3 ต. บ้านหญ้าแพรก อ. เมืองสมุทรสาคร จ. สมุทรสาคร พร้อมด้วยของกลางที่ตรวจค้นได้จากกระเป๋าผ้าสีขาว ซึ่งวางไว้บริเวณตู้ไฟฟ้า บนชั้นเดียวกัน พบค้นพบอาวุธปืนขนาด .32 จำนวน 1 กระบอก, เครื่องกระสุนจำนวน 3 นัด, เครื่องช๊อตไฟฟ้า 1 เครื่อง ,ไขควง 1 อัน ,เสื้อผ้า 1 ชุด ,ผ้าคุมศรีษะ, และอุปกรณ์ งัดแงะอีกจำนวนหนึ่ง หลังจากพยายามงัดบานเก๊ต เข้าไปลักทรัพย์ ห้องหมายเลข 21 ชั้น 3 อาคาร 62 โครงการบ้านเอื้ออาทร โดยเจ้าหน้าที่ รปภ.ดักซุ่มดูคนร้ายมานาน เนื่องจากชาวบ้านถูกก่อเหตุงัดห้องพักไปกว่า 10 ครั้งแล้ว ขณะนั้นคนร้ายกำลังก่อเหตุจึงได้เข้าไปรวบตัวได้ทันและควบคุมตัวไว้ พร้อมทั้งแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาควบคุมตัวไปสอบสวนและดำเนินคดี ที่ สภ.ย่อยนวนคร อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี

      นายกิตติศักดิ์ ให้การรับสารภาพ ทราบว่า ตนเองพยามยามอาศัยอยู่ในเขตจังหวัด สมุทรสาคร ซึ่งช่วงนี้ไม่เมีเงินใช้จึงตัดสินใจเลือกที่จะลักทรัพย์ โดยเลือกเดินทางมาที่ จังหวัดปทุมธานี โดยนั่งรถประจำทางมาลงที่ รังสิต จากนั้นได้ต่อรถ ประจำทาง 338 มาลงที่ หน้าหมู่บ้านเออาทร จากนั้นได้ต่อ วิน จยย. เข้ามาภายในหมู่บ้านโดยอ้างกับ รปภ.ว่า จะมาหาเพื่อน จากนั้นได้เลือกเอา อาคารที่ 62 เพราะไม่มีคนพุกพล่าน จากนั้นเดินขึ้นเลือกห้องดังกล่าว และเอาไขควงงัดบานเก๊ต แต่ขณะที่กำลังงัดแงะอยู่นั้น รปภ. เดินมาเห็นพอดีจึงพยามวิ่งหนีแต่ก็ถูกชาวบ้านและ รปภ.ล้อมจับไว้ได้ดังกล่าว

      ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนนาย ค้ำ วินทะจัก อายุ 48 ปี รปภ.ที่เห็นเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ที่หมู่บ้านเอื้ออาทรแห่งนี้ ถูกโจรย่องขึ้นมาขโมยทรัพย์สินภายในห้องพักของชาวบ้านมากกว่า 10 ราย จนชาวบ้านหวาดกลัวกันมากเพราะเกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายได้หากโจรงัดห้องมาเจอเจ้าของห้อง จึงได้ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันเฝ้าระวังจนสุดท้ายก็สามารถรวบตัวคนร้ายได้เป็นผลสำเร็จ จากนั้นจึงควบคุมตัวนาย กิตติศักดิ์ ผู้ต้องหารายนี้ ส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีในข้อหา พยามลักทรัพย์ ทำอันตรายต่อสิ่งกีดกั้น และพกอาวุธปืนที่ไม่ได้รับอนุญาตไปในเขตเมืองและเขตชุมชน