เมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 11 ต.ค.53 พ.ต.ท.กษิดิษ เทียกสีบุญ สารวัตรเวร สภ.คลองสิบสอง ได้รับแจ้งเหตุจากชาวบ้านว่าพบโครงกระดูกผู้เสียชีวิตในแท็งก์น้ำวัดมงคลรัตน์ ถนนเลียบคลองสิบสองฝั่งตะวันออก ม.11 ต.ลำไทร อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี

       จึงไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู และมูลนิธิร่มไทร ที่เกิดเหตุเป็นแท็งก์เก็บน้ำใช้ของวัดมงคลรัตน์ขนาดกว้าง 5คูณ5 ตั้งอยู่หน้าศาลาวัดเพื่อเก็บน้ำใช้สำหรับในงานต่างๆต้องมาเปิดน้ำในแท็งก์แห่งนี้ และในวันนี้ทางรองเจ้าอาวาสได้ขอแรงชาวบ้านมาช่วยกันพัฒนาวัดตัดต้นไม้รอบวัดขนาดที่ชาวบ้านได้ปีนขึ้นไปบนแท็งก์น้ำเพื่อตัดต้นไทรเนื่องจากแพร่กิ่งก้านคุมแท็งก์น้ำอยู่ ได้เปิดฝาแท็งก์น้ำดูเนื่องจากยังมีกลิ่นเน่าเหม็นออกมาเมื่อเปิดดูถึงกับผงะเห็นโครงกระดูกและกางเกงลอยอยู่ในน้ำจึงได้เรียกชาวบ้านและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ

       เมื่อเจ้าหน้าที่มูลนิธิได้นำโครงกระดูกออกมากองกับพื้นพบว่าเป็นโครงกระดูกผู้ชายเสียชีวิตมากว่า4-5 เดือนแล้ว และจากการสอบถามนายสำราญ ขาดำ อายุ 62 ปีผู้ที่อาศัยอยู่ในวัดได้ให้การว่าโครงกระดูกดังกล่าวน่าจะเป็นนายแปะ มีอายุ 70 ปี ที่ได้หายไปเมื่อ4-5เดือนที่แล้ว ตนที่เจ้าอาวาสยังไม่เสียชีวิต ได้ให้คนออกติดตามนายแปะ ซึ่งถูกทางโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในกรุงเทพนำมาฝากวัดเลี้ยงไว้กว่า 20 ปี มาแล้ว เนื่องนายแปะเดินทางมาจากผืนแผ่นดินใหญ่ไม่มีญาติพี่น้องจึงถูกนำมาฝากที่วัดแห่งนี้เลี้ยงไว้และนายแปะได้ช่วยเหลือทางวัดมาตลอดและได้หายไปโดยติดตามหาตัวก็ไม่พบและหาตามมูลนิธิที่เก็บศพไม่มีญาติก็ไม่พบตัว

       เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้นำโครงกระดูกส่ง รพ.ลำลูกกาตรวจสอบเบื้องต้น แต่ทาง รพ.แจ้งว่าให้นำส่งนิติเวชธรรมศาสตร์เลย เพราะจะได้รู้ว่าถูกฆาตกรรมหรือไม่ เพราะแท็งก์น้ำสูง 5 เมตร ผู้ตายไม่น่าจะปีนขึ้นไปได้ จึงต้องรอผลตรวจสอบก่อน.