เมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 27 ส.ค. 53 เจ้าหน้าที่ประศูนย์วิทยุรับแจ้งเหตุ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี รับแจ้งจากนายสุวัฒน์ เครืออารีย์ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 ม.10 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ว่ามีเหตุคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ก่อเหตุกระชากสร้อย และหลบหนี แต่ถูกตนเองขับรถกระบะไล่ชนจนคนร้ายวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่าหญ้าข้างทาง ขอให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบด้วย เหตุเกิดภายในซอยเทพกุญชร 27 ม.11 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ต่อมา ร.ต.ท.สมภพ ขันแก้ว รอง.สวป.สภ.คลองหลวง และเจ้าหน้าที่สายตรวจรถจักรยานยนต์รุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

       ในที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะโตโยต้า วีโก้ สีดำ หมายเลขทะเบียน ชล 6030 กทม.จอดอยู่กลางถนน โดยด้านหน้ารถชนอัดอยู่กับท้ายรถจักรยานยนต์ฮอนด้า สีน้ำเงิน ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดยมีนายสุวัฒน์ เครืออารีย์ และ น.ส.นงลักษณ์ พูลสวัสดิ์ อายุ 28 ปี ยืนคอยเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งแจ้งว่า คนร้ายที่ก่อเหตุเป็นชายวัยรุ่นและหลบหนีลงไปซ่อนตัวอยู่ในป่าหญ้าข้างทาง เจ้าหน้าที่จึงกระจายกำลังปิดล้อมและตรวจค้นจนพบตัวทราบคนร้ายทราบชื่อต่อมาคือนายอำพลศักดิ์ มณีแก้ว อายุ 27 ปี บ้านเดิมอยู่เลขที่ 33 ม.10 ต.ชะอำ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี

       น.ส.นงลักษณ์ พูลสวัสดิ์ ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนเองเป็นแม่ค้า ค้าขายอยู่ที่ตลาดไทย โดยก่อนเกิดเหตุ ตนเองได้ขับรถจักรยานยนต์ฮอนด้า คลิ๊ก สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน รบฉ 230 กทม. ออกจากร้านเพื่อไปล้างรถที่ร้านคาร์แค แห่งหนึ่งย่านคลองหนึ่ง แต่เมื่อตนเองขับรถมาติดไฟแดงบริเวณ แยกหลังตลาดไท จู่ๆก็มีคนร้ายขับรถ จยย.มาจอดเบียดข้างและคนขับได้ทำการกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึงของตนเอง แล้วจากนั้นคนร้ายก้เร่งเครื่องหลบหนี

       จังหวะนั้นนายสุวัฒน์ สามีของตนเองได้รับรถกระบะผ่านมาพอดี จึงได้ขับรถกระบะไล่ติดตามคนร้ายซึ่งหลบหนีเข้าไปในซอยเทพกุญชร 27 และได้ไล่ชนจนรถของคนร้ายไม่สารถขับหนีได้ คนร้ายจึงทิ้งรถและวิ่งหลบหนีเข้าไปในป่า จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบจับกุมดังกล่าว

       ด้านนายอำพลศักดิ์ มณีแก้ว คนร้ายที่ก่อเหตุ กล่าวว่าตนเองตกงานและไม่มีเงินใช้ เมื่อขับรถมาเจอผู้เสียหายจอดติดไฟแดงอยู่จึงได้ทำการกระชากสร้อยเพื่อจะนำไปขายเอาเงินมาใช้จ่าย แต่หนีไม่รอดถูกจับกุมได้ดังกล่าว

       หลังการสอบสวนเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาวิ่งราวทรัพย์โดยมียานพาหนะใช้ในการหลบหนี และจะได้ทำการตรวจสอบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนว่าโจรกรรมมาหรือไม่ ก่อนจะนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป