และแล้วสิ่งที่คาดการณ์ไว้ก็เป็นจริง ช่วงระหว่างวันที่ 19 - 20 ที่ผ่านมา ถนนซ่อมสร้างก็กลายเป็นคลองรังสิตด้วยเวลาเพียง 2 วันจากที่กักน้ำเอาไว้แค่ซีกถนน ตอนนี้เรียบร้อย น้ำเต็มทั้ง 2 ฝั่งแต่ไม่มีการสั่งอพยพใดๆ ทั้งๆ ที่บางจุดน้ำสูงมาก (ผมก็ต้องอพยพตัวเองและครอบครัวด้วยความทุลักทุเลเช่นกัน เก็บของไม่ทันปล่อยให้มันจมไปก่อนแล้วค่อยกลับมาติดตามเก็บกวาดซากภายหลัง เนื่องจากน้ำใช้เวลาเพียง 6 - 8 ชั่วโมงปรับระดับจากข้อเท้าถึงเอว) ภาวนาว่ามันจะลดลงเร็วขนาดไหน เพื่อให้เกิดความเสียหายน้อยที่สุด แต่ทั้งนี้ถ้ายังต้องมานั่งผันน้ำออกบางปะกงเป็นหลัก โดยไม่ให้ผ่านกรุงเทพฯ หรือท่าจีนให้ได้มากที่สุด มีสิทธิ์ท่วมขังยันสิ้นปี จนป่านนี้แล้วหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทราบถึงปริมาณมวลน้ำหรือไม่ก็ไม่มีใครรู้ มีแต่ออกมาพูดว่ามีแผนแบบนั้นแบบนี้แก้ปัญหาวันต่อวัน และไม่รู้ว่าน้ำเหนือที่มาจากเขื่อนจะหมดช่วงหรือกลับเป็นปกติเมื่อไหร่

ถ้าเสร็จงานนี้ขอให้มีหน่วยงานไปตรวจสอบดูประวัติการปล่อยน้ำของเขื่อนต่างๆ ในอดีตเทียบกับ 2 ปีที่ผ่านมาว่าทำอะไรเอาไว้บ้าง น่าจะพบอะไรผิดสังเกตุให้เป็นอุธาหรณ์ที่เป็นบทเรียนราคาแพงแสนแพง อย่าโทษธรรมชาติ แล้วอ้างเรื่องการตัดไม้ทำลายป่า ถมคลองสร้างถนน มีพายุฝนหลายลูก มันเป็นส่วนเดียวของสาเหตุเท่านั้น ขณะเดียวกันการมองแต่เศรษกิจเป็นหลักโดยมองข้ามเรื่องความปลอดภัยและการบริหารจัดการน้ำในสภาวะการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงการนำเสนอข้อมูลความจริงที่ถูกต้องอย่างเป็นระบบพร้อมกับแผนงานรองรับ และความน่าเชื่อถือที่จะประสบผลสำเร็จของแผนงาน ก็เป็นปัจจัยกระทบทำให้การแก้ปัญหาเป็นไปด้วยความยุ่งยากและมีอุปสรรคมากมาย

ตอนนี้ประชาชนก็งงว่าต้องการจะให้เส่้นทางน้ำไปทางไหนกันแน่ แล้วเมื่อน้ำเดินทางเข้ามาจะใช้เวลาประมาณกี่วันถึงจะไปหมด เส้นทางฉุกเฉินที่ต้องรักษาเอาไว้เพื่อใช้สัญจรลำเลียงอาหาร ผู้ป่วยมีเส้นไหนได้บ้าง อย่าไปมองศูนย์อพยพเลย ขนาดตอนนี้กองทัพอากาศเอาเครื่องบินมาจอดอยู่สัตหีบหมดแล้ว ทางรังสิตกำลังรับบทหนักเพื่อไปออกบางปะกง (เวลโกร โตโยต้า ปิดกันแล้ว) แล้วทางน้ำที่บอกจะระบายไปทางท่าจีนไปถึงไหนกัน ยิ่งกั้นยิ่งหนัก แต่ทำอย่างไรให้น้ำมันผ่านออกไปเร็วที่สุด ความเสียหายที่เกิดขึ้นน่าจะน้อยกว่าพยายามกั้น ปริมาณน้ำขนาดนี้แสดงว่าข้อมูลที่มีพอเพียงหรือถูกต้องมากน้อยแค่ไหน?

ผมได้ออกไปสำรวจคลอง1ถึงคลอง5 ธัญบุรี ตั้งแต่คลอง1ถึง3 โดนหนักแล้วครับ เขาปล่อยน้ำเข้ามาตอนนี้ถนนรังสิตองครักษ์ ท่วมแล้วบางจุด รถติดรถเสีย ใต้สะพานรังสิตก็ใช้ไม่ได้แล้ว ผมก็ยังไม่รู้ว่าคนที่สั่งการเขาจะให้น้ำมันไปทางไหนต่อ เป็นไปได้ไหมว่าไปลงแม่น้ำที่องครักษ์ แล้วลงบางปะกง บางคนอาจจะคิดเหมือนผม

เห็นมีแต่ให้สัมภาษณ์เรื่องของการเยียวยาหลังน้ำท่วม อาจจะมองข้ามเร็วกันไปหน่อย สถานะการณ์ตอนนี้คือต้องมีทีมที่คำนวณปริมาณน้ำ และการหาทิศทาง เพื่อระบายให้เร็วที่สุด เช่นแจ้งว่าคลองรังสิตรับการระบายน้ำได้ 400 ลบม./วินาที แต่ปริมาณน้ำที่เข้ามามี 1200 ลบม./วินาที นั่นเป็นการคำนวณจากอัตราปกติ แต่ถ้าจะทำให้มันรับน้ำได้มากกว่านี้จะมีวิธีการอย่างไร แล้วมีช่องทางอื่นๆ ใดบ้างที่สามารถเพิ่มการระบายในส่วนต่างอีก 800 ลบม./วินาที? นี่คือสิ่งที่ประชาชนกลัว เหมือนกับไม่มีแผนสำรองและคำตอบ มีแต่การปฏิบัติเดิมๆ คือน้ำมาก็อพยพ แล้วเอาไปอยู่ศูนย์ฯ แต่สิ่งที่ประชาชนอยากจะเห็นคือแผนงานที่จะระบาย ระยะเวลาที่ใช้ เส้นทางฉุกเฉินในการลำเลียงอาหารการคมนาคมไม่ให้ถูกตัดขาด ส่วนเรื่องจะเยียวยาอะไรกันตอนนี้ เป็นเรื่องของผู้รับผิดชอบทางด้านเศรฐกิจและสวัสดิภาพของประชาชนที่มีกระทรวงรองรับอยู่แล้ง เอาเวลาที่จะแบ่งไปคิดมาระดมสมองคำนวณปริมาณ เส้นทางน้ำ และรีบเอาน้ำลงสู่เจ้าพระยาและทะเลให้เร็จที่สุดก่อนที่น้ำทะเลจะหนุนอีกรอบ

ตอนนี้เหลืออีกนิดเดียวน้ำก็เข้ากรุงเทพฯ แน่นอน เช้านี้ทั้งบางพูน สินธร แฟลตปลาทอง รับกันถ้วนหน้า สถานะการณ์ขนาดนี้ต้องเปลี่ยนแผนในการระบายดีกว่ากั้น การกั้นเป็นแผนแรกเพื่อยันน้ำ แต่ตอนนี้ถ้าจะกั้นก็เพื่อเปลี่ยนเส้นทางน้ำ เหมือนสลับรางรถไฟ ให้น้ำตกลงไปในจุดที่ระบายใกล้ที่สุด

คนกรุงเทพ  : "ไม่นะ น้ำห้ามเข้ากรุงเทพ ที่นี่หัวใจของประเทศ การค้า ธุรกิจ การปกครอง อยู่ที่นี่

                         พวกเธอกั้นกันไว้ให้ดีๆ ล่ะ พวกเธออดทนหน่อยนะ อาหารของยังชีพชั้นก็ส่งไปบริจาคแล้วนี่"

คนต่างจังหวัด : อืมๆ ได้จ้ะ อย่าให้ท่วมมิดต้นมะขามล่ะ ชั้นไม่มีที่จะอาศัย

คนกั้นกระสอบทราย : เอ้าเร็วพวกเรา กรอกใส่ถุง ช่วยกันๆ ช่วยประเทศชาติ!

คนปริมณฑล : นี่ คนกรุงเทพ พวกชั้นกั้นทางเข้าให้แล้ว จะให้ทำไงต่อ เธอเห็นชั้นเป็นเขื่อนรึป่าว บ้านชั้นอยู่ที่นี่ แต่ชั้นก็ต่อถ่อสังขารไปทำงานที่บ้านเธอนะ ไหนๆ สั่งนัก จะให้ทำไงต่อ ว่ามาซิ นอกจากกั้นแนว กั้นกระสอบทรายแล้ว จะให้ทำไรอีก

คนกรุงเทพ : .............(ดูเหมือนฉลาด แต่พอให้แก้ปัญหา มักจะมึนตึ้บ).................................ไม่รู้ล่ะ พวกเธอทำยังไงก็ได้ ที่ไม่ให้น้ำเข้ามาบ้านชั้นก็แล้วกัน ชั้นคิดไม่ออก  รู้แต่ว่าถ้าน้ำรั่วเข้ามาเมื่อไหร่ล่ะ น่าดู

คนต่างจังหวัด : ได้จ่ะคนกรุง ปีหน้าปลูกข้าวแทนพวกเราด้วยละกัน สร้างนิคมฯในกรุงเทพด้วยละกัน ย้ายทุกอย่างของประเทศไปที่นั่น เพราะยังไงที่นั่นก็ปลอดภัยเสมออะ โอเคนะ

คุณคนคูคต ผมก็พยายามหาคำตอบเหมือนกันว่าการระบายน้ำทางอื่นมันอยู่ตรงจุดไหนบ้าง แล้วแต่ละจุดที่สามารถจะระบายน้ำได้มันมีขีดความสามารถในการรับน้ำและเร่งน้ำให้มันออกเจ้าพระยาได้ขนาดไหน? กรุงเทพฯ คือเขตเศรษฐกิจก็จริง แต่มันคือชั้นใน ถ้าสามารถเลาะเพื่อให้ชั้นนอกเป็นแนวเพื่อช่วยให้น้ำลงเจ้าพระยาด้วย มันก็จะดีกว่าต้องไปหาทางอ้อมกันออกบางปะกงและท่าจีน ซึ่งก็ไปโดนนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ อีก เช่นโตโยต้า แล้วจะต่างกันอย่างไรเศรษฐกิจจะเหลือตรงไหน ถ้าวางแผนจัดการดีมันก็ไม่น่าจะท่วมขังนานช่นแค่ 2 - 3 วัน เป็นแค่ให้น้ำมีที่ลงได้หลายๆ ทาง เพื่อช่วยการระบายได้เร็วขึ้น

ถ้ากรุงเทพท่วมจะอพยพคนไปไหนปทุมยังหลักแสน ผมว่าไม่ท่วมกรุงเทพดีแล้วถ้าท่วมเศษฐกิจแย่จะไปกันใหญ่นะครับ กรุงเทพหัวใจของประเทศนะครับ ทางที่ดีผมว่าหาทางให้น้ำมันระบายไปทางอื่นโดยเร็ว ไปด้านข้างลงแม่น้ำเจ้าพระยาให้เร็วที่สุดครับ

ต้องชมเชยผู้ว่าเมืองปทุม และ อบจ อบต เจ้าหน้าที่ทุกๆ ท่านที่ยืนหยัดสู้น้ำมาได้ถึงวันนี้ งานนี้ใช้ประสบการณ์และความรู้สึกล้วนๆ ดีกว่า เพราะเจ้าหน้าที่ ศปภ ไม่ชำนาญพื้นที่เท่ากับท่านๆ ประสานงานกับหน่วยงานสรรพกำลังที่มีอยู่ในมือหรือความช่วยเหลือเรื่องเครื่องไม้เครื่องมือจากทางอุดร ฯลฯ กางแผนผังกันอีกรอบ ถ้าท่วมก็ขอให้รู้ว่าจะบายออกได้เร็วอย่างไร แบ่งน้ำเป็นโซนๆ ระบายจากชั้นในสุด ไปสู่ชั้นนอกสุด อัดระบบระบายน้ำออกไปให้เร็ว เพราะยังไงปทุมก็ต้องรับน้ำที่มาจากทางเหนือเต็มเป็นด่านสุดท้ายอยู่แล้ว ทำแนวน้ำดีกว่า ประตูระบายน้ำปล่อยได้ไม่มาก ก็อัดตามด้วยเครื่องสูบ เพราะถ้าเราฝืนด้วยการยันด้วยคันกั้นน้ำอย่างเดียว ก็จะมีแต่ข่าวแนวกั้นพังไปที่ละจุด 2 จุด ถ้าเรามีแผนการเด่นชัดว่าจะเร่งเอาน้ำออกไปจุดไหนเพื่อให้มันผันออกจากปทุม ชาวบ้านก็น่าจะเข้าใจ ที่เค้ากลัวกันก็เพราะไม่รู้ว่าถ้าปล่อยให้ท่วม มันจะยาวนานแค่ไหน ขนาดเขื่อนเก็บน้ำต่างๆ ที่เป็นปูนแน่นยังต้องปล่อยน้ำออกมาเพียบ เราไม่ใช่เขื่อนแต่คล้ายอ่างเก็บน้ำที่ทำด้วยดินและถุงทรายก็คงอั้นได้ไม่นาน

เห็นด้วย 100% ค่ะ ท่วมแทนได้ แต่อยากรู้ว่าเมื่อไร ยังไง อีกนานมั๊ย อย่าปล่อยให้อยู่กันเป็นเดือน ๆ โดยไม่มีจุดหมายแบบนี้
เห็นได้ชัดตรงคลองรังสิตฝั่งใต้นี่แหละ คลองฝั่งเมืองเอก แรงงานเยอะมาก ทั้งทหาร ทั้ง กทม. มาเฝ้ากันตลอดเวลา ระวังน้ำกันตลอด แต่น้ำทางอื่น ที่จะไปปทุมจุดอื่น ๆ คนกลุ่มนี้ไม่สนใจเลย ทุกอย่างทุ่มไปตรงนั้นเพื่อ กทม. แล้วปทุมล่ะคะ

คนปทุมไม่ต้องอยู่กันเลยเหรอ ใจคอจะให้ท่วมไปถึงปลาย พย. เลยหรือไง

ขนาดถุงทราย ยังเอามานั่งเถียงเป็นประเด็นกันระหว่าง "ศปภ." กับ "ผู้ว่ากทม." ได้ แล้วนี่มันตกลงว่าจะปรองดอง ร่วมแรงร่วมใจกันแก้ปัญหาหรือเพิ่มปัญหากันแน่ ระดับบิ๊กมานั่งให้สัมภาษณ์ชนกันออกทีวีโจมตีกันไปมาคนละช่อง แล้วจะให้ประชาชนจะทำอย่างไรกันดี ต่างคนต่างป้องกันด้วยความภูมิใจ  แล้วน้ำมันจะไหลไปไหนได้ สุดท้ายก็ต้องกระจายหรืออ้อม ทำให้น้ำลดช้าลงไปอีก ... เฮ้อเจริญจริงๆ 

เห็นด้วยกับคุณ ชาวบ้านซ่อมสร้าง ครับ

ผมว่าทางการคงทำเต็มที่ได้แค่นี้ล่ะครับ ตกอยู่ในวังวนของคน กทม ว่าน้ำท่วมต้องกั้นไม่ให้เข้าบ้านตัวเอง

ผมเคยอยู่ต่างจังหวัด น้ำท่วมก็ท่วมกันทั่วถึง ไม่กี่วันก็ลด

อีกอย่างทางการไม่มีการวางแผนที่ดี ตอนนี้ก็เริ่มออกมาให้สัมภาษณ์ทางทีวีแล้วว่า ไม่สามารถปิด-เปิดประตูน้ำต่างๆได้ตามแผนที่วางไว้เพราะประชาชนแถวนั้นไม่ยอม อันที่จริงทางการต้องรู้ตั้งแต่ตอนแรกแล้วว่าชาวบ้านที่เขาเดือดร้อน บางส่วนเขาต้องไม่ยอมแน่นอน ซึ่งเหตุการณ์ความขัดแย้งแบบนี้ก็มีให้เห็นทุกจังหวัดก่อนหน้านี้ จนป่านนี้ยังไม่มีแผนในการรับมือเรื่องนี้อีก

เราว่านะ คนกรุงเทพฯต้องเสียสละบ้าง ใจคอจะไม่ให้เปียกน้ำสักนิดเลยหรือ รักษาชั้นในไว้ก็ไม่ว่า แต่ก็ควรจะเสียสละชั้นนอกแถวชานเมืองให้ท่วมบ้าง เห็นผู้ว่า กทม.แถลงข่าวหัวฟัดหัวเหวี่ยงว่ารัฐบาลเปิดประตูน้ำคลอง 8 9 10 แล้วขัดใจ ทำไมไม่ยอมเสียสละบ้าง ยอมท่วมบ้างบางส่วน เพื่อเฉลี่ยความทุกข์ของคนต่างจังหวัดบ้าง คิดดูง่าย ๆ น้ำอยู่ทางนครสวรรค์ และจังหวัดอื่น ๆ เป็นล้านล้านลูกบาศก์เมตร แต่จะให้ระบายลงทะ***ันละไม่กี่ร้อยลูกบาศก์เมตร แล้วกี่ชาติน้ำมันจะไหลลงทะเลหมด คนต่างจังหวัดจะต้องอยู่จมน้ำกันกี่เดือน ผู้ว่ากทม.อย่าเอาแต่ผลงานว่าสามารถป้องกันน้ำไม่ให้ท่วมกรุงเทพฯได้ แล้วดีใจว่าตัวเองประสบความสำเร็จ นั่นมันคือเสียหัวเราะบนคราบน้ำตาของคนต่างจังหวัด

ผมอยู่แถวซ่อมสร้างติดคลองรังสิตปิดถนนเหลือฝั่งเดียวมาตั้งแต่เดือนที่แล้ว จนป่านนี้ยังมองไม่เห็นวี่แววว่าจะลด มีแต่ขอแรงให้ช่วยกันกั้นกระสอบเพิ่มขึ้นๆ แต่ไม่มีใครมาอธิบายว่าเราจะระบายน้ำไปทางเจ้าพระยาอย่างไร เร็วขนาดไหน ดังนั้นในเมื่อน้ำมันไม่พร่อง น้ำใหม่ก็มาเติม แล้วมันจะไปไหวได้อย่างไร ถามเจ้าหน้าที่หรือคนที่มาช่วยกั้น ก็ไม่มีใครรู้ว่าจะกั้นได้นานแค่ไหน?  และไม่รู้ว่ามีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพื่อเร่งสูบลงเจ้าพระยากันหรือเปล่า? ประตูระบายน้ำอะไรที่ยังทำงานอยู่บ้าง? เส้นทางน้ำที่คาดว่าจะมาทางไหน? หรือจะเบี่ยงไปอย่างไร? เพื่อให้มันลงเจ้าพระยาให้เร็วที่สุด ถ้าน้ำท่วมจริงก็ขอให้รู้ว่าจะระบายออกไปได้ภายในกี่วัน? ยังมีความรู้สึกที่ดีกว่า แต่นี่ไม่มีใครชี้แจงหรือให้คำตอบที่กระจ่างได้!!!

ที่พังกันมาตั้งแต่ พิษณุโลก สุโขทัย นครสวรรค์ ผ่านมาอีก 4 - 5 จังหวัดจนกระทั่งอยุธยาจมบาดาล แล้วไล่มาถึงปทุมธานี เพื่อป้องกันแค่ไม่ให้กรุงเทพฯ ที่บอกว่ามีคน 10 ล้านอยู่ โดยยอมให้แต่ละจังหวัดที่กล่าวมาช่วยกันยันน้ำเอาไว้ รวมๆ ทุกจังวัดที่น้ำท่วมมันกี่ล้านคน นี่มันรายการขี่ช้างจับตั๊กแตนชัดๆ แล้วยังบอกว่าต้องคำนึงถึงส่วนรวม กลไกการเปิดปิดเขื่อน การพร่องน้ำในเขื่อน รวมถึงเส้นทางที่น้ำต้องผ่านในแต่ละจังหวัด ที่เราเคยเป็นมาตั้งแต่อดีตแล้วไหลตรงเข้าสู่เจ้าพระยาโดยไหลผ่านกรุงเทพฯ ซึ่งเป็นเส้นทางที่ใกล้สุด เพี้ยนไปหมด ตอนนี้กลายเป็นว่าน้ำกระจายออกไปทุกทิศทุกทางวิ่งไกลไปถึงบางปะกง หรือท่าจีนอ้อมกันเข้าไป ผมว่าพวกชาวบ้านในแต่ละหมู่บ้าน ตำบล ก็พร้อมกันสู้เพื่อรักษาพื้นที่ ที่เราอยู่กันอยู่แล้ว แต่ขอให้รู้ถึงแผนงานของรัฐบาลมากกว่านี้ ทำไปเพื่อประโยชน์อะไร อย่างไร เพื่อที่ทุกๆ หน่วยจะได้ทำงานสอดคล้องกัน แต่นี่กลายเป็นว่ากั้นเพื่อซื้อเวลาไปแต่ละวัน อย่างในกรณีของนวนคร มานั่งแถลงการณ์เมื่อเวลา 10 โมงบอกเอาอยู่ 11 โมงบอกแตกแล้วอพยพด่วน สุดท้ายวันนี้เรียบร้อยครบ 100% ส่วนผู้ว่ากรุงเทพฯ ก็มานั่งงัดข้ออัดกันออกทีวีกับรัฐบาลอยู่ คนที่เครียดและเดือดร้อนก็คือ "ประชาชน" และ ผู้ว่าฯ ในจังหวัดต่างๆ ... 

เราก็ว่ายิ่งฟังยิ่งงง ฟังพูดเหมือนปลอบใจ เราว่าปทุมธานีทุกพื้นที่ท่วมหมดแน่ น้ำมันมาไวมากๆ เราอยู่บ้านฟ้าฝั่งร.ร.โชคชัย ของเรายังไม่ท่วม แต่ข้างในท่วมหมดแล้ว ยังไม่เข้าบ้านบ้างหมู่บ้าน พรุ่งนี้มันจะท่วมเหมือนคนถนนเลียบคลอง3 ฝั่งคลองหลวงไหมเพราะมันก็ใกล้กันน่ะกลัวมากอยู่กับลูก2คน แต่ยกของชั้น2หมดแล้ว