นายกอบจชาญ พวงเพ็ชร์ ทำงานหนักกว่าผู้ว่าฯ ท่านใหม่เสียอีก ทั้งจัดรถบริการประชนวิ่งอยู่ 6 สาย ก็เข้าใจว่าม้าศึกถูกเปลี่ยนตัวกลางสมรภูมิ หลังน้ำทะลักผ่านเลยนวนครมาได้แค่วันเดียว ส่วนผู้ว่าท่านใหม่ฯ ก็คงยังงงๆ กับสภาพพื้นที่ได้แต่รับฟังประชาชน นักธุรกิจชาวปทุมธานี โดยไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เพราะเป็นมวยแทนที่ถูกส่งให้มา "นั่ง" เพื่อรับฟังแต่ศูนย์ปัญญาอ่อนอย่างเดียว...ผมก็เป็นคนกรุงเทพฯ ที่มาอยู่ปทุมฯ ได้หลายปีแล้ว ผูกพันกับปทุมฯ มากกว่ากรุงเทพฯ เสียอีก ถึงเวลาที่ต้องมีคนนำเป็นโซนๆ เพื่อช่วยกันระบายน้ำออก ผมเชื่อว่าทางแถบนวนคร ธรรมศาสตร์รังสิต บางกระดีก็ยังพอมีสรรพกำลังช่วยกันระบายได้ ตลาดรังสิต ฟิวเจอร์ ก็มีเทศบาลอยู่  แต่โซนอื่นๆ เช่นคลองสามที่ไกล้กับลำลูกกาสายไหมเอย ธัญบุรี คูคต หนองเสือ คลองรังสิตอื่นๆ บางพูน ซ่อมสร้าง ฯลฯ น่าจะมีการรวมตัวเพื่อตรวจสอบตามพื้นที่ของตนเองว่ายังพอมีเหลือช่องทางอะไรที่สามารถจะใช้งานได้บ้าง หรือต้องทำอะไรเพิ่มเติมก็เสนอกันมาผ่านตัวแทน ถ้าผู้ว่าไม่สามารถแก้ได้ตัดสินใจได้ ก็ลองไปใช้ช่องทางนายกอบจ ดู ผมไม่หวังพึ่งพวก สส. เพราะตั้งแต่น้ำท่วม เห็นมีแต่ป้ายสติ๊กเกอร์หาเสียงติดอยู่ตามเรือหรือรถใหญ่ แต่ไม่เห็นออกมาพูดหรือแสดงตัวว่าจะต้องทำอะไรเพื่อลดหรือระบายน้ำลงไปได้บ้าง อาจจะไปอยู่ต่างประเทศช่วงนี้แล้วก็ได้ และอีกอย่างถ้าโซนหลักข้างต้นเริ่มระบายน้ำออกมันก็จะไปกระทบโซนอื่นๆ ที่เหลือด้วย สุดท้ายน้ำก็จะไม่ไปไหนวนกลับมาอยู่ในปทุมฯ อยู่ดี และกลายเป็นแก้มลิงให้ กทม. ไปโดยปริยาย

น้ำเข้ามาจากอยุธยา แต่กทม.กั้นน้ำเข้าดอนเมือง

สรุปว่าจะให้คนปทุมเป็น"สัตว์น้ำ"ไปอีกนาน 

เกลียดประเทศไทย  เกลียดกทม.!!!!!

------------------------------- 

ประตูระบายน้ำคลองหนึ่ง ยังคงเปิดอย่างสุดบาน ทำให้มวลน้ำจาก อ.วังน้อย จ.อยุธยา ยังคงไหลเข้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานีอย่างต่อเนื่อง

          เมื่อวานนี้ (17 พฤศจิกายน) มีรายงานว่า หลังจากตรวจสอบประตูระบายน้ำคลองหนึ่ง ซึ่งเป็นเขตรอยต่อระหว่าง อ.วังน้อย จ.อยุธยา กับ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พบว่า ประตูน้ำมีการเปิดบานประตูไว้จนสุด ทำให้น้ำจาก อ.วังน้อย ไหลเข้าสู่คลองระพีพัฒน์ ผ่านประตูน้ำคลองหนึ่ง สู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์ส่งท้าย ทำให้พื้นที่ต้นน้ำมีน้ำลดลง แต่ท้ายน้ำอย่าง ตลาดรังสิตและหมู่บ้านรัตนโกสินทร์ 200 ปี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี มีมวลน้ำมากขึ้น