ในเมื่อน้ำไม่ลดลง และ เป็นแหล่งน้ำนิ่งแล้ว ท่านทั้งหลาย คิดว่า การสูบลงคลอง จะทำได้เร็วกว่า ถนน ซึ่่งจะระบายสู่คลองลาดพร้าว และส่งต่อไปยัง อุโมงค์ยักษที่ พระรามเก้า
วิธีทำ  รื้อ bb อย่างมีประสิทธิภาพ
แบ่งกำลัง ออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่
1.เตรียมการปิดโทลเวย์
2.เตรียมรื้อ bb กล่มนี้ แบ่งเป็น 2 กลุ่ม
   2.1 ทีมรื้อ
   2.2 ทีมป้วนเจ้าหน้าที่ ป้องกันไม่ให้ขัดขวางการรื้อ bb
ทั้ง 2 กลุ่มใหญ่ ให้เริมดำเนินการเวลาเดียวกัน
ให้นัดหมายกันอีกครั้ง สิ้นเดือนนี้ ครับ

กั๊กน้ำไว้เพาะยุงลาย กลัวคนไม่ลำบากพอ กลัวเหงาเลยให้ยุงมาเป็นเพื่อน ฮือออออออ  ฮือออออออ

เห็นด้วยอย่างยิ่งกับความเห็นที่ ๑๕ และ ๒๗.... เราต้องช่วยกันปทุมธานี

ถ้าเกิดตาม นิคมฯ ต่างๆ ในจังหวัดปทุมฯ เริ่มระบายน้ำออก น้ำก็จะไปขังอยู่ในทุ่ง, สวน หรือไร่นา ต่อให้ตลาด 200 ปี, อำเภอเมือง และ บางบัวทองเริ่มคิดที่จะระบายก็ไม่น่าจะทัน ที่หนักก็คือพวกจุดอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุมาก็ต้องรับน้ำเพิ่มเข้ามาอีก โดยที่ไม่สามารถจะให้น้ำผ่านกรุงเทพฯ ได้ ... ถ้ามีจำนวนเครื่องสูบน้ำแบบที่อยู่ใน กทม. แล้ว "ทำ" ทางน้ำผลักเข้าสู่เจ้าพระยาก็น่าจะลดไปตั้งนานแล้ว ไม่รู้ว่าเห็นภาพใหญ่กันหรือยังว่าหัวน้ำทะลักทะลุทะลวงเข้ากรุงเทพไปส่วนหนึ่ง กลางน้ำก็ยังอยู่แถวๆ อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี ส่วนหางน้ำก็พึ่งผ่านพ้นออกมาจากพิษณุโลก ตอนนี้เลื้อยมาอยู่แถวๆ นครสวรรค์ อ่างทอง ชัยนาท สิงห์บุรี บางส่วน และน้ำบางส่วนที่ไม่สามารถระบายได้ก็ปลิ้นไปออกแถวนครปฐม นครชัยศรี ทั้งหมดก็เพื่อรักษา "เมืองหลวง" ... ทำใจได้ถ้า กทม. ไม่มีเครื่องสูบน้ำเป็นพันเครื่อง ทำใจได้ถ้า กทม. ไม่มีคลอง แต่ที่ทำใจไม่ได้ก็คือ คนที่มีหน้าที่และอำนาจในการสั่งการแก้ไข ลองผิดลองถูกมาตลอดเดือนเศษ ทำให้เดือดร้อนไปทุกหย่อมหญ้า และยิ่งเห็นการเอาบิ๊กแบ๊คมากั้นเพื่อชะลอน้ำเข้า "เมืองหลวง" ทั้งๆ ที่ "เมืองหลวง" มีศักยภาพการระบายน้ำดีกว่าหลายๆ จังหวัดด้วยซ้ำ โดยให้คนที่อยู่ต่างจังหวัดรอบกรุงเทพ รับผลกระทบไปและพึ่งจะมาคิดหาทางออก นี่มันเห็นเป็นเรื่องเด็กเล่นขายของกันหรือไง บทสุดท้ายของผลกระทบนี้คือ "เอาอยู่" หมายถึงเอาตัวเองอยู่ แต่ฉิบหายเท่าไหร่ก็เอาเงินมาชดเชยจากการกู้ และหลังน้ำลดก็จะมีโครงการณ์ต่างๆ มโหฬารที่รอคอยการอนุมัติให้อิ่มหมีพีมัน ... อาจจะมองโลกในแง่ร้าย ที่ได้เห็นและได้รับรู้มาจนชิน แต่ที่นี่ประเทศไทย

เมื่อเช้าดูข่าวช่อง 11 ดีใจด้วยกับชาวตลาดรังสิต หมู่บ้าน 200 ปี , เมืองปทุมธานี, และบางบัวทอง  ที่ตอนน้ำ ศปภ. และเทศบาลกำลังร่วมมือกันหาทางระบายน้ำลงแม่น้ำเจ้าพระยา คาดว่าจะเริ่มวันนี้ 21 พ.ย. ก็ยังดีนิ  นึกว่าทำกรุงเทพฯแห้งแล้วจะลืม ปทุมธานี และนนทบุรี ที่คอยรับน้ำไว้แทนคนกรุงเทพฯ ส่วนคนที่อยู่ในระดับ อบต. ก็ร้องเพลงรอไปก่อน คงจะลงแต่ช้ากว่า 3 จุดข้างต้น 

เห็นข่าวผู้ว่า กทม. คลีนนิ่ง 5 แยกลาดพร้าววันนี้แล้วละเหี่ยใจ ท่วมแค่ 10 วันก็คลีนนิ่งได้ แต่ปทุมฯ เดือนเศษแล้ว มันไม่ใช่เรื่อง 2 มาตรฐานอีกต่อไป นี่มันจงใจจะแบ่งประเทศเป็นส่วนๆ ส่วนไหนไม่ใช่เป็นสำนักงานธุรกิจของพวกท่านๆ มันก็ไม่สน ทั้งๆ ที่ปทุมฯ ก็เป็นจังหวัดสำคัญอันดับ 6 ของประเทศไทย เป็นไปได้อย่างไร ถ้ามันไม่กั้นน้ำทุกวิถีทางที่ควรไหลไปตามธรรมชาติจากเหนือลงทะเล ถ้ารูปการณ์เป็นเช่นนี้ปทุมฯ ก็น่าจะเป็นแก้มลิงไปเรียบร้อย โดยเฉพาะกลุ่มที่อยู่แถบคลองรังสิตเพราะไม่รู้ว่าจะให้น้ำไหลไปไหน คงรอแดดเผาแรงๆ ให้มันแห้งไปเอง ไม่ได้ตั้งใจจะยุยงให้แตกแยกคนไทยด้วยกัน แต่ผู้มีอำนาจท่านๆ ปฎิบัติการเสมือนว่าประเทศนี้มีแต่กรุงเทพฯ ไปเรียบร้อย เหมือนที่ฝรั่งชอบพูดหรือเปรียบเปรย ถ้าเราไม่รวมตัวและช่วยกันผลักดันน้ำกันเองก็ไม่น่าจะมีท่านๆ มาช่วยแล้วล่ะครับ เพราะถ้า กรุงเทพฯ แห้งสนิทเมื่อไหร่ก็จะมีการประกาศว่าสถานะการณเข้าสู่ภาวะปกติ ... อยากรู้ว่า***นักวิชาการหัวถั่วตัวไหนเป็นที่ปรึกษา แนะนำแต่เรื่องเวรๆ แบบนี้ออกมาทำให้พวกเราชาวปทุมฯ เดือนร้อนกันเละเทะขนาดนี้ ระบายน้ำที่ปทุมฯ เสร็จได้มีบัญชีกรรมติดหน้าเอาไว้แน่

นายกอบจชาญ พวงเพ็ชร์ ทำงานหนักกว่าผู้ว่าฯ ท่านใหม่เสียอีก ทั้งจัดรถบริการประชนวิ่งอยู่ 6 สาย ก็เข้าใจว่าม้าศึกถูกเปลี่ยนตัวกลางสมรภูมิ หลังน้ำทะลักผ่านเลยนวนครมาได้แค่วันเดียว ส่วนผู้ว่าท่านใหม่ฯ ก็คงยังงงๆ กับสภาพพื้นที่ได้แต่รับฟังประชาชน นักธุรกิจชาวปทุมธานี โดยไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร เพราะเป็นมวยแทนที่ถูกส่งให้มา "นั่ง" เพื่อรับฟังแต่ศูนย์ปัญญาอ่อนอย่างเดียว...ผมก็เป็นคนกรุงเทพฯ ที่มาอยู่ปทุมฯ ได้หลายปีแล้ว ผูกพันกับปทุมฯ มากกว่ากรุงเทพฯ เสียอีก ถึงเวลาที่ต้องมีคนนำเป็นโซนๆ เพื่อช่วยกันระบายน้ำออก ผมเชื่อว่าทางแถบนวนคร ธรรมศาสตร์รังสิต บางกระดีก็ยังพอมีสรรพกำลังช่วยกันระบายได้ ตลาดรังสิต ฟิวเจอร์ ก็มีเทศบาลอยู่  แต่โซนอื่นๆ เช่นคลองสามที่ไกล้กับลำลูกกาสายไหมเอย ธัญบุรี คูคต หนองเสือ คลองรังสิตอื่นๆ บางพูน ซ่อมสร้าง ฯลฯ น่าจะมีการรวมตัวเพื่อตรวจสอบตามพื้นที่ของตนเองว่ายังพอมีเหลือช่องทางอะไรที่สามารถจะใช้งานได้บ้าง หรือต้องทำอะไรเพิ่มเติมก็เสนอกันมาผ่านตัวแทน ถ้าผู้ว่าไม่สามารถแก้ได้ตัดสินใจได้ ก็ลองไปใช้ช่องทางนายกอบจ ดู ผมไม่หวังพึ่งพวก สส. เพราะตั้งแต่น้ำท่วม เห็นมีแต่ป้ายสติ๊กเกอร์หาเสียงติดอยู่ตามเรือหรือรถใหญ่ แต่ไม่เห็นออกมาพูดหรือแสดงตัวว่าจะต้องทำอะไรเพื่อลดหรือระบายน้ำลงไปได้บ้าง อาจจะไปอยู่ต่างประเทศช่วงนี้แล้วก็ได้ และอีกอย่างถ้าโซนหลักข้างต้นเริ่มระบายน้ำออกมันก็จะไปกระทบโซนอื่นๆ ที่เหลือด้วย สุดท้ายน้ำก็จะไม่ไปไหนวนกลับมาอยู่ในปทุมฯ อยู่ดี และกลายเป็นแก้มลิงให้ กทม. ไปโดยปริยาย

ขอเรียกร้องให้ผู้ว่าปทุมฯ สส. อบต. อบจ. เทศบาล ทำอะไรซักอย่างสิ ไม่ใช่ก้มหน้ารับชะตากรรม ปล่อยไปตามยถากรรมแบบนี้ ตอนนี้ไม่มีใครสนใจพวกเราหรอก เขาสนใจกันแต่ว่าน้ำจะเข้ากรุงเทพฯไหม โทรทัศน์ทุกช่องก็ให้ความสำคัญแต่คนกรุงเทพฯ ขนาดรังสิตท่วมมาก ท่วมมาก่อนดอนเมืองอีก เขาก็ไม่เห็นจะออกข่าวเท่าไรเลย แต่พอ ธนินทร อยู่เจริญ ฯลฯ ในเขตดอนเมืองเจอภัยบิ๊กแบคเข้า เห็นออกข่าวกันทุกวัน ทุกช่องด้วย เพราะฉะนั้นเราต้องช่วยตัวเองดีกว่าอย่าไปรอความช่วยเหลือจากรัฐบาลเลย พูดไปเขาก็ไม่ฟังเสียงเราหรอก เสียงคนต่างจังหวัดมันไม่ดังเท่าเสียงคนกรุงเทพฯหรอก ผู้ว่าและผู้ที่มีอำนาจทั้งหลาย หรือผู้รู้นักวิชาการในจังหวัดปทุมธานี ลองช่วยกันหาทางระบายน้ำออกจากจังหวัดของเราได้ไหม ว่าจะมีหนทางไหนได้บ้าง จะใช้เครื่องสูบน้ำ เครื่องผันน้ำ หรือว่าขุดลอกคูคลอง หรือจะขอความร่วมมือเราชาวปทุมธานีให้ทำยังไงก็บอกมา ดีกว่ามานั่งงอมืองอเท้าอยู่อย่างนี้ ไม่ใช่แต่คนกรุงเทพฯเท่านั้นที่ความอดทนต่ำ แต่เดี๋ยวนี้คนปทุมธานีก็ความอดทนต่ำเหมือนกัน (เพราะคนกรุงเทพฯขยายเมืองมาซื้อบ้านอยู่แถวปทุมธานีกันมาก คริ คริ)  

เลือกกันไปทำมัยสส. ไม่ได้ช่วยอะไรได้เลยสวะ

ดูจากข่าวเห็นว่ามีเครื่องสูบอยู่ 22 ตัว เสียไป 4 จะดำเนินการซ่อมให้เสร็จภายในพรุ่งนี้ ตามที่ความเห็น 21 แจ้งเอาไว้ว่าเสียตั้งแต่ 28 ตค. แต่พอมีเรื่องจะรื้อ Big Bag ถึงได้มาซ่อม สงสัยว่าที่มีอยู่อีก 18 ตัวเดินเครื่องหรือเปล่า เพราะตามตรรกะ เสียแค่ 4 ตัวน้ำไม่ได้ลดลงเลย ใครพอจะรู้บ้างครับว่าเดินเครื่องสูบหรือเปล่าหรือปิดเอาไว้เฉยๆ อีกอย่างปทุมฯ มีคลองรังสิตอย่างเดียวที่เป็นคลองหลักและใช้ร่วมกับ กทม. แล้วพวกคลองย่อยๆ จะพอมีทางเอาน้ำลงไปได้หรือไม่ (ถ้าทำคันให้สูงขึ้น) อย่างน้อยก็เป็นตัวช่วย และสงสัยว่าประตูระบายน้ำจุฬาฯ ใช้งานได้ตามปกติหรือไม่? จำได้ว่าจังหวัดปทุมฯ ยังมีประตูระบายน้ำอยู่อีกหลายจุด มันพังไปหมดหรือยัง? ต้องเช็คอุปกรณ์ที่มีและยังใช้ได้ รวมถึงแนวที่จะระบายน้ำ จะได้ไม่เกิดความสับสนกลายเป็นต่างโซนต่างทำ

เกิดเป็นคนไทยต้องอดทนและเสียสละเพื่อนักการเมืองครับ เพื่อให้ท่าน ๆ ได้มีอำนาจ วาสนา เป็น รัฐมนตรี เป็น สส. สืบมรดก กัน ชั่วลูกชั่วหลาน นาน แสน นาน จนกว่าจะไม่มี่ประเทศไทย อาเมน

อยากให้เทศบาล และนักการเมืองท้องถิ่น ช่วยกันประชาสัมพันธ์ หรือท่านผู้ว่าฯ ท่านใหม่มีแผนที่คิดจะระบายน้ำกันอย่างไร ก็ส่งข่าวหากัน ระดมบริหารจัดการน้ำกันเอง ทำให้เค้ารู้กันว่าเราก็สามารถอยู่ด้วยตัวเรากันเองได้ ถ้าจะรอแต่ ศูนย์ฯ ผมว่าจบจากกรุงเทพฯ ก็จะลืมปทุมฯ เป็นแน่ เพราะในความรู้สึกของพวกท่านๆ ปทุมฯ ไม่ใช่แหล่งธุรกิจสำคัญ จบงานนี้ผมจะเปลี่ยนบัตรชาชนจากคนกรุงเทพฯ มาเป็นชาวปทุมฯ เต็มตัวซ๊ะที  

ตนรังสิตก็มีเงินซื้อของบริจากคนกรุงเทพนะคับอย่ามาพูดว่าต้องรักษากรุงเทพชั้นในเลยก็รู้อยู่บ้านพวกมันอยู่ในกรุงเทพรู้ไว้เลยบ้านผมไม่รับของบริจากจากกรุงเทพมีเงินซื้อเพราะไม่เคยมีใครมาช่วยอยู่แล้วช่วยตัวเองมาตลอดแถมยังเอาเรือไปช่วยดนเดือดร้อนฟรีด้วยคับตนกรุงเทพ

เครื่องสูบน้ำกรมชล ที่ประตูจุฬา เสียไป4ตัว ตั้งแต่28 ตุลาคม จนป่านนี้ยังไม่เสร็จเลย  นี่หรือความจริงใจ

คงต้องรวมตัวกันเหมือนพวกคลองบางน้ำจืด แถวพระราม 2 ที่พยายามหาทางกันเองในการระบายน้ำโดยไม่รอทั้ง ศูนย์ปัญญาอ่อนและ กทม. เพราะแก้แล้วก็เละพอกัน ปทุมฯ โดนเต็มนานมาเป็นเดือนๆ แล้ว ไม่เห็นมีใครพูดถึง มีแต่บอกให้อดทน แต่พวกชาวกรุงเทพฯ โดนน้ำกันไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็เดือดร้อนกันเป็นแถว มีแต่นักข่าวไปทำข่าวกันทุกวี่ทุกวัน อุตสาหกรรมปทุมฯ ก็พังไปถึง 2 แห่งทั้ง นวนครและบางกระดี คนตกงานนับแสน มหาวิทยาลัยที่ใช้เป็นศูนย์อพยพก็มาจมอยู่กับน้ำ ชาวบ้านแถบคลองรังสิตและปทุมธานีเกือบทั้งจังหวัดก็อาศัยเรือเคล้ากลิ่นน้ำเน่ามานานกว่าชาวกรุงแต่ก็ไม่มีกระบอกเสียงที่จะไปร้องขอความช่วยเหลือได้ดังๆ ถ้าหากมีนักการเมืองท้องถิ่นที่มีความชำนาญพื้นที่ ผังเมืองปทุมฯ รังสิต ดูแล้วสามารถเห็นช่องทางที่จะจะระบายน้ำออกทางไหนได้บ้าง ก็ช่วยทำกันเองเป็นโซนๆ จนกว่าน้ำจะแห้งหมด พยายามหาทางแจ้งหรือติดต่อกันมาเถอะ ระดมทุกช่องทางและสรรพเครื่องมือที่เรามีอยู่ ดูแลกันเอง อย่าไปหวังรอความช่วยเหลือหรือการจัดการแบบลมๆ แล้งๆ เลย เราชาวปทุมฯ ก็มีพร้อมทุกอย่าง ขอให้หาทางแจ้งสถานที่และความต้องการแล้วช่วยกันประสานงาน จะได้ทำคลีนนิ่งเดย์แบบชาวปากน้ำโพหรืออยุธยากันมั่งและจะได้ยืดอกตะโกนได้เต็มปากว่าพวกเราบริหารจัดการน้ำกันเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาพวก ดร. จากศูนย์ปัญญาอ่อน รักษาการผู้ว่าฯ หรือนักการเมืองพรรคไหน จุดไหนที่จำเป็นต้องทำคันกั้นใหม่ก็ทำกันเถอะ เครื่องมือเราก็ยังมีกันอยู่ แล้วระดมสูบน้ำออกโดยใช้เครื่องสูบน้ำของเจ้าหน้าที่และเอกชนขนกันเข้ามาร่วมด้วยช่วยกัน เอาปัญญาชนของพวกเราช่วยกันคิดช่วยกันทำกันเอง เราก็อยู่ติดกับเจ้าพระยา คูคลองต่างๆ ก็มี ประตูระบายน้ำก็มี ใส่น้ำลงไปให้พวกที่อยากดูแลรักษาเมืองกรุงไปหาทางระบายต่อกันเอง ถ้ารอแต่ความช่วยเหลืออาจได้ฉลองปีใหม่ท่ามกลางน้ำเน่าในบ้าน

ช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงหาเสียงเลือกตั้ง เลยไม่เห็นหาง เฮ้ย! หัว...

ขอให้ท่านผู้ทรงเกือก เฮ้ย! เกียติร อยู่ดีมีสุข ประชาชนก็สุขแล้ว ถึงเราจะต้องเร่ร่อน ไม่มีบ้านอยู่ คราวหน้าเราจะลงคะแนนให้ท่านได้อยู่อย่างสบายอีกครับ

ขอทางให้น้ำผ่านลงคลองของกทม.ลงทะเลบ้างเถอะคนรังสิตก็คนไทย  อาจไม่สำคัญเท่ากรุงเทพฯก็เข้าใจแต่ทางผู้เกี่ยวข้องควรช่วยบรรเทาแบ่งน้ำไปบ้าง   จากที่เห็นใจ  เข้าใจการแก้ปัญหาของรัฐแต่ตอนนี้มัน 1 เดือนแล้ว เริ่มเป็นความไม่พอใจและเป็นความเกลียดชัง  น้ำไม่ลดลงไปเลย 

คงจะลืมว่ายังมีจังหวัดนี้อยู่ ถึงไม่สนใจ......แล้วไม่ทราบว่า สส. ปทุมที่ชนะคะแนนเสียงเลือกตั้งมาหายไปไหนจ๊ะ  ตั้งกะน้ำท่วมไม่เห็นหน้าเลยซักคน  สบายดีนะ...สบายบนความทุกข์ของคนอื่น คนเค้าอุตส่าห์หน้ามืดเลือกมา  แล้วเป็นไงล่ะ สะใจดีมั้ยยยยยย ดีแต่หาความสุขใส่ตัว  เวลามีทุกข์ก็ลอยคอคนอื่น ไม่อายเหรอ

#ความเห็นที่ 12

เมื่อวันเสาร์ที่ 12 ซอย8 ระดับน้ำในบ้าน 10 cm ครับ หน้าบ้านประมาณเข่า ถนนหน้าหมู่บ้านคงสูงกว่าเอว รถเล็กยังวิ่งไม่ได้ ค่าเรือประมาณ 200 ต่อคนแพงมาก ไม่จำเป็นอย่าเข้า  รถบรรทุกวิ่งได้(นานๆจะมีสักคัน) วันก่อนเห็นกระบะต่อท่อไปเสียวิ่งอยู่คันนึง แต่รถบริการของหน่วยงานราชการไม่มี

สิ่งที่เสียหายน่าจะมีพวกประตูไม้ชั้นล่างบวมปิดเปิดยากมากๆ  บัวพื้นทั้งหมดเปื่อยยุ่ย ไม้บันไดที่จมน้ำ 2 ขั้น แยก โก่ง  เหล็กดัดที่จมน้ำอาจมีสนิมบ้างเล็กน้อย กระเบื้องชั้นล่างเต็มไปด้วยตะกอน แต่ทำความสะอาดง่าย ถ้าไม่มีบิวอินท์และได้ขนย้ายของขึ้นชั้นหมดหมดก็คงไม่มากไปกว่านี้ครับ...

  ผอ

(ผู้อพยพ)

นายก..กลัวแต่ว่ากรุงเทพจะท่วม แล้ว รังสิต หล่ะกลัวว่าจะ.....ท่วมไม่มิดหัวหรือไง..? ถึงเอาบิ๊กแบคมากั้นน้ำไว้

มันประกาศออกโทรทัศน์ว่า รบ.ไม่ทิ้งประชาชน แต่อียิ่งเละแกรู้ไหมว่าแกทำให้คนเดือดร้อนมากมาย แกไม่ทิ้งเขา แต่คนปทุมธานีจะทิ้งแก เพราะประชาชนที่แกพูดถึงแกเอาแต่คนกรุงเทพ คนอื่นไม่ใช่ประชาชนของประเทศไทยหรือไง คนปทุมธานีไม่ใช่คนไทยหรือไง แกถึงเอาบิ๊คแบคมาวางทำให้คนรังสิตเดือดร้อนมากขึ้น แช่น้ำนานกันมาเป็นเดือนแล้ว ท่วมถึงคอแล้วแต่คนกรุงเทพฯ มันท่วมกันแค่หัวเขามันก็จะตายกันแล้วหรือไง หัดเสียสละกันบ้างสิไม่ใช่จะเห็นแก่ตัวเหมือนพี่ชายของ***

โทรามสำนักระบายน้ำ 02-5834102 เจ้าหน้าที่บอกว่า

บิ๊กแบ็ค มีผลทำให้น้ำในคลองรังสิตไหลช้าลง

ทำให้น้ำลดลงได้ช้า...ฮ่วยจิงๆ

พอมีใครรู้ระดับน้ำแถวถนนซ่อมสร้างบ้างครับ จากบ้าน The Living มาร่วมเดือนแล้ว เพิ่งซื้อยังไม่ครบปี โดนน้ำเข้าเลยเอว กำแพงผนังอิฐมวลเบา คงยุ่ยเป็นฟองน้ำไปแล้วกระมัง ไม่รู้ว่าอีก 2 สัปดาห์จะมีหน่วยงานไหนช่วยทำให้น้ำลดลงได้บ้าง อย่างน้อยให้ถนนแห้งซัก 1 ฝั่งแล้ววิ่งสวนกันก็ยังดี

แก้ปัญหากันเละ กลายเป็นโรคกลัวน้ำกันไปหมด เข้าใจว่าใครมานั่งนายกฯ ยามนี้ก็ต้องสติแตก เพราะมีนักวิชาการมานั่งให้คำปรึกษามากมายกันเหลือเกิน แต่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกรู้ไม่จริง คือพวกเก่งแต่สร้างเขื่อน  น่าจะเป็นการใช้พวก ดร. ผิดประเภท เพราะงานนี้ไม่ได้ให้มาทำเขื่อนกั้นน้ำ แต่จุดประสงค์จะต้องทำการระบายน้ำไปให้เร็วที่สุด คลองบางแห่งในกรุงเทพยังพร่องน้ำค่อนข้างมาก เช่นคลองแสนแสบ  แต่ทางภาคกลางตอนบนน้ำล้นจากคลองมาสู่ถนนกันเป็ฯเดือนๆ แล้ว ... ทำไมไม่มีใครคิดเอาถนนหลักในกรุงเทพฯ มาทำเป็นทางน้ำแทนคลองจะได้ระบายน้ำได้เร็วขึ้น มัวแต่คิดว่าจะกั้นอย่างไร สุดท้ายน้ำตีโอบ บางพื้นที่ก็กลายเป็นเกาะเหมือนถูกตัดขาด แต่ถ้าทำให้มีทางน้ำมากขึ้นแล้วให้น้ำมันไหลออกไปได้โดยไว ไม่ว่าจะเป็นประตูระบายน้ำ เครื่องสูบน้ำ หรือช่องทางระบายน้ำอื่นๆ เรื่องมันก็จบเร็ว แต่***พวกนักวิชาการประสาทแดก มัวแต่แนะนำให้กั้นน้ำชะลอน้ำ อ้างว่าปลอยเข้ามาจะทำให้เศรษฐกิจเสียหาย ซึ่งตอนนี้มันก็ยังโกหกตัวเองอยู่เพราะมันเสียหายฉิบหายไปแล้ว พื้นที่แห้งก็จริงแต่ไม่มีของส่ง ไปขายของไม่ได้ ทำธุรกรรมอะไรก็ไม่ได้ แต่ไม่สั่งให้หยุดงาน ให้รถวิ่งฝ่าลุยน้ำโชว์เป็นภาพข่าวไปเรื่อยเปื่อย ทุกกระทรวงก็ไม่รู้ว่าหน้าที่ตัวเองต้องทำอะไร รอคำสั่งแต่ศูนย์ปัญญาอ่อนอย่างเดียว ยิ่งแก้ยิ่งเละ ถ้าใจแข็งๆ ไม่ต้องไปนั่งเถียงกันเสียเวลากับผู้ว่าฯ บ้าการเมืองในกทม. ประกาศหยุดงานเป็นวาระแห่งชาติในการช่วยกันระบายน้ำ ทำทางน้ำโดยใช้ถนนสายหลัก เพื่อช่วยการระบายน้ำตามคูคลอง แล้วเพิ่มศักยภาพที่ปลายทางทั้งเครื่องสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ ขยายช่องทางการระบายน้ำออกทะเลให้มากและเร็วขึ้น ผมว่าซัก 2 สัปดาห์ก็น่าจะเห็นพื้นที่แห้งบ้าง แต่นี่ดันไปคำนวณจากอุปกรณ์และตัวเลขเดิมๆ ที่มีคือระบายน้ำได้วันละ 10 ล้าน แต่น้ำหลุดมา 300 ล้าน ก็ไปเทียบว่าต้องใช้เวลา 30 วันในการระบาย จากนั้นก็มาบอกว่าต้องใช้บิกแบ๊ก เพื่อชะลอน้ำ เนื่องจากสูบไม่ทัน นี่มันตรรกตื้นๆ ที่เด็ก ป.4 คิดกันชัดๆ ชาวบ้านที่ไม่ได้จบ ดร. เค้าคิดกันได้มากมาย แต่***นักวิชาการสมองลิงที่เป็นที่ปรึกษาศูนย์ปัญญาอ่อนกลับคิดไม่ออกและยังมาให้คนต่างจังหวัดแบกรับภาระกันวุ่นวายกลับเข้าบ้านไม่ได้กันเป็นเดือนๆ แล้ว

เมื่อวันเสาร์ไปดูบ้านที่ลำลูกกา เห็นเจ้าบิ๊กแบ๊กด้วย ระดับน้ำฝั่งปทุมธานีกับกรุงเทพต่างกันประมาณคืบนึงอย่างเห็นได้ชัด ผมว่ารัฐบาลต้องเพิ่มค่าชดเชยให้พวกที่อยู่เหนือแนวกั้นน้ำด้วยนะ ไม่ใช่ว่าได้เท่ากันหมด  เหตุเพราะผู้ว่าฯ จังหวัดนึงไม่ต้องการให้น้ำท่วมเข้าในพื้นที่ของตัวเอง แต่ไม่คำนึงถึงจังหวัดที่อยู่เหนือแนวกั้นน้ำเลย บอกว่าต้องเสียสละเพื่อคนส่วนใหญ่ ปล่อยน้ำไหลไปตามธรรมชาติเถอะครับ ผมว่าคนกรุงเทพเค้าเตรียมใจรับน้ำท่วมกันได้หมดแล้ว มีแต่ท่านคนเดียวที่ยังรับไม่ได้กับน้ำท่วมกรุงเทพ ไปดูได้เลย คลองบางคลองในกรุงเทพ น้ำยังต่ำกว่าตลิ่งเป็นเมตร

แล้วยังมาบอกว่า รัฐบาลไม่ทิ้งประชาชน จะช่วยเหลือยังไง เสียหายกันแต่ละหลังไม่ใช่น้อย ช่วยเหลือหลังละไม่เกิน 5000 ทำได้แค่นี้แหละครับรัฐบาลพวกมากลากไป

แล้วยังมาบอกว่า รัฐบาลไม่ทิ้งประชาชน จะช่วยเหลือยังไง เสียหายกันแต่ละหลังไม่ใช่น้อย ช่วยเหลือหลังละไม่เกิน 5000 ทำได้แค่นี้แหละครับรัฐบาลพวกมากลากไป

ใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว

โดยปกติพื้นที่ตั้งแต่อยุธยามาถึงปทุมธานีเป็นทางลาดลงไปถึงกรุงเทพฯ และ นนทบุรี ยิ่งกั้นก็ยิ่งเหมือนเขื่อน แทนที่จะหาทางระบายให้เร็ว กลับมานั่งคิดชลอน้ำ ผันน้ำไปคนละทิศละทาง ซึ่งเป็นการคิดแบบคำนึงถึงแต่ข้อจำกัดที่มีของการระบายน้ำในกรุงเทพฯ แล้วผลักภาระให้พื้นที่จังหวัดอื่นๆ โดยมองว่าต้องปกป้องเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นมุมมองที่ผิดมหันต์ เนื่องจากกรุงเทพฯ ไม่ใช่หน่วยผลิต เป็นแค่หน่วยติดต่อ และหน่วยผลิตที่อยู่ตามต่างจังหวัดเสียหาย ถ้ายังมองภาพแค่นี้ไม่ได้ แก้ไปก็เท่านั้น คลองมีก็ถมทำถนนให้รถวิ่ง โดยใช้ท่อระบายน้ำแทน แต่ปริมาณของท่อมันก็มีจำกัดไม่สามารถขยายได้เหมือนคูคลอง ถ้าเต็มแน่นก็สามารถลอกเพิ่มได้อีก นี่คือสิ่งที่บรรพบุรุษเราวางกันเอาไว้ แต่เพื่อข้ออ้างทางเศรษฐกิจก็ถมจนหมด ทำไมไม่เอาถนนไปทำทางน้ำชั่วคราว อย่างน้อยมันก็เป็นช่องทางที่จะทำให้น้ำระบายได้เร็วขึ้น จากวิภาวดี ก็เดินทางไปแถวดินแดง จนกระทั่งพระรามเก้า ตัดออกสุขุมวิท พระโขนง อาจะมีความเสียหายกับตึกแถวบ้างแต่ก็เป็นระยะเวลาอันสั้น เพื่อขยายพื้นที่รับน้ำของ กทม. ดีกว่าไปอ้อมออกไปทางบางปะกง หรือผลักไปฝั่งตะวันตกซึ่งมีแต่คลองขาวงทางน้ำเต็มไปหมด นี่ฟังแต่พวก ดร. สมองลิง พอแผนใช้ไม่ได้ก็อ้างว่าผู้ปฏิบัติไม่เข้าใจ โทษกันไปมา มีปัญญาขนบิ๊กแบกมากั้นก็ควรจะมีปัญหาเพิ่มช่องทางระบายน้ำ ไม่อย่างนั้นประเทศไทยได้แบ่งแยกดินแดนกันจริงๆ แน่ เพราะชาวต่างจังหวัดก็คงผลิตแล้วขายเอง ไม่ต้องผ่านช่องทาง กทม. ที่เป็นเพียงสถานที่ติดต่อเท่านั้น

เราต้องช่วยสื่อสารไปยังรัฐบาล เคยได้ยินคุณรัฐบาลพูุดสักคำมั้ยว่าพอกั้นบิ๊กแบคแล้ว จะมีผลกระทบอะไรกับคนรังสิตบ้าง นอกจากพูดว่าป้องกันไม่ให้ถนนในกรุงเทพฯเปียกเพิ่มขึ้น แทนที่จะช่วยระบายกลับมาเพิ่มน้ำให้คนรังสิต ทำไมไม่สูบน้ำจากคลองรังสิตไประบายออกที่ซอยโยธินพัฒนา 3 หน้าบ้านคุณยิ่งเละไปเลยหล่ะ

เห็นเพื่อนที่อยู่ตรงแถวตลาดรังสิตบอกว่าน้ำเริ่มลดลงมาบ้างแล้ว  แต่พอว่าบิ๊กแบ็คเท่านั้นและน้ำนิ่งเลย  สรุปยังคิดไม่ได้อีกนะว่าต้องทำอะไร  ว่าจะระบายน้ำหรือขังน้ำกันแน่เอาเข้าไป

เห็นบอกแต่ว่าต้องกั้น แต่กั้นไปเพื่ออะไร แล้วจะได้ผลหรือไม่ เอาแนวคิดมาจาก พวก ดร. สมองลิง ที่แห่กันมาแนะนำแล้วก็เละ มาตั้งแต่แรกโดยไม่เคยมีประสบการณ์เลย มีแต่ทฤษฎีจากหนังสือ จำกันแบบผิดๆ งานนี้นอกเหนือจากยิ่งแก้ยิ่งแย่แล้ว ยังทำให้สิ่งที่มันควรจะฟื้นตัวได้เร็วกลับต้องมาลอยคออยู่กับน้ำ ทำไมไม่หาทางระบายน้ำให้เร็วขึ้น แทนที่จะพยายามกั้นน้ำหรือชะลอน้ำ เพราะยิ่งทำมันก็ยิ่งแตกออกไปทางอื่นที่ทำให้การควบคุมทิศทางลำบากมากขึ้น ถ้าคลองที่มีอยู่ไม่พอ ก็ใช้ถนนเป็นทางวิ่งน้ำ แล้วเร่งระบาย ดีกว่าคิดแบบเดิมๆ คือชะลอ แล้วดูปลายทางที่รอน้ำมาแล้วค่อยสูบ แทนที่จะรีบดันมันออกให้เร็วโดยใช้ทางคลองและถนน (ในกรณีที่น้ำมันมากจนคลองรับไม่ไหว เพราะเล่นถมคลองวางท่อระบายน้ำเล็กๆ แล้วสร้างเป็นถนน มันจะเหลือที่ให้น้ำผ่านอย่างไร ก็ต้องใช้ตัวถนนเป็นการช่วยคราวในการให้น้ำผ่าน)

 เห็นแก่ตัวมากค่ะ ชาวรังสิตเดือนร้อนแล้วยังซ้ำเติม แต่เราจะทำอะไรได้ค่ะ ได้แค่ภาวนาให้น้ำลด คิดถึงบ้านที่สุด