วาซาบิความเผ็ดที่มีประโยชน์

 
สำหรับ เมืองไทย คนไทยจำนวนมากนิยมกินอาหารรสจัดจ้าน “พริก”  จึงเป็นความเผ็ดที่ขาดไม่ได้ในแต่ละมื้ออาหารของคนไทยเรา  ซึ่งในขณะที่ดินแดนปลาดิบนั้น “วาซาบิ” นั้นก็เปรียบเสมือนความเผ็ดคู่ครัวไม่ต่างจากพริกของเมืองไทยครับ
ใน  wikipedia ให้ข้อมูลว่า  วาซาบินั้นเป็นเครื่องปรุงที่ทำมาจากการบดส่วนลำต้นของพืช Canola (Japanese  horseradish) ซึ่งจัดเป็นกลุ่มไม้ยืนต้นที่อยู่ในตระ***ลเดียว กับพวกบรอกโคลีและกะหล่ำ เป็นสมุนไพรดั้งเดิมของญี่ปุ่น  สามารถปลูกได้ทั้งบนดิน และพื้นน้ำ  โดยการปลูกบนพื้นน้ำนั้นจะให้คุณภาพที่ดีกว่า  และในหลายประเทศมักจะเรียกวาซาบิกันแบบผิดๆ ว่าฮอร์สแรดิชญี่ปุ่น  ฮอร์สแรดิชสีเขียว หรือแม้แต่มัสตาร์ดญี่ปุ่น

ใบ ของวาซาบิจะคล้ายกับดอกของต้นโฮลีฮอค ต้นมีความสูงแค่เข่า  ส่วนโคนลำต้นที่ใช้ในการทำอาหารมีลักษณะเป็นหัวเหมือนหัวไชเท้าหรือบอระเพ็ด แต่เป็นสีเขียวอ่อนๆ เมื่อบดแล้วมีกลิ่นที่ฉุนรุนแรง  ถ้ารับประทานจะให้ความรู้สึกแสบร้อนขึ้นจมูกในระยะสั้นๆ  ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นความกลมกล่อม จากรสหวานและขมผสมกัน  และให้ความเผ็ดเล็กน้อย
นำ ส่วนโคนลำต้นที่มีความหนาออกมาใช้ และหลายๆ  คนมักจะเข้าใจผิดว่าเป็นส่วนรากของมัน เวลาจะนำไปรับประทาน  หรือประกอบอาหารนั้นจะต้องมีกรรมวิธีพิเศษคือนำวาซาบิไปฝนกับเครื่องฝนพิเศษ ที่ทำมาจากเหงือกปลาฉลาม (Wasabi Oroshi) ซึ่งจะมีปุ่มขนาดเล็กๆ  จนทำให้ผลวาซาบิละเอียดจนมีลักษณะคล้ายครีมสีเขียว  หลังจากนั้นก็นำไปผสมกับโชยุใช้เป็นน้ำจิ้มสำหรับปลาดิบ (ซะชิมิ, sashimi)  หรือ ซูชิ (sushi) เพื่อให้ได้รสชาติอร่อยยิ่งขึ้น
 โตชิโอะ ลิยาม่า  เป็น หัวหน้าของทีมวิจัยวาซาบิ ซึ่งตั้งอยู่ในทางตอนใต้ของกรุงโตเกียว ระบุว่า  วาซาบิ มีผลในการฆ่าเชื้อโรค มันสามารถต่อต้านการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด  และยังสามารถกำจัดพยาธิ Anisakis พยาธิ ที่อาศัยอยู่ในปลาได้  เมื่อมันผ่านเข้ามาในระบบการย่อยอาหารของมนุษย์ และเมื่อไม่นานมานี้  ยังมีการศึกษาพบอีกว่า วาซาบิ ยังมีฤทธิ์ต่อต้านสารก่อมะเร็ง  ซึ่งเป็นผลดีต่อผิวหนัง และยังช่วยป้องกันเส้นเลือดอุดตัน
cr: trick2day